กว่างชนะดวลโทษสายฟ้า 8-7 คว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์คัพสมัยแรก!!!

“ทัพกว่างโซ้งมหาภัย” สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ผงาดคว้าแชมป์ “ออมสิน ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์ คัพ 2018” อย่างยิ่งใหญ่ ด้วยการเอาชนะ “ทัพปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปในการดวลจุดโทษ

โดยเกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสนุกสูสี เริ่มมาเพียงแค่ 6 นาที “เอ็ดการ์ บรูโน่ ดา ซิลวา” ก็ได้จังหวะวอลเล่ย์บอลข้ามหัว “ฉัตรชัย บุตรพรหม” เข้าประตูไปแบบสวยงาม ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0

หลังจากที่ถูกขึ้นนำ เชียงรายก็ทำเกมบุกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เป็นผล จนนาทีที่ 19 ก็มีใบเหลืองใบแรกของเกม จากจังหวะที่ “อาทิตย์ ดาวสว่าง” กองหลังของเชียงราย เข้าสกัดหนักใส่ผู้เล่นของบุรีรัมย์ที่กำลังทำเกมสวนกลับ

มาถึงนาทีที่ 34 บุรีรัมย์ก็มาบวกประตูหนีห่างเชียงรายเป็น 2-0 จากการแปบอลหน้ากรอบเขตโทษของ “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” ผ่านแสกหน้าของเจ้าบอย ผู้รักษาประตูเชียงรายเข้าไปแบบเหนือชั้น

หลังจากเสียประตูที่ 2 ไปเพียงนาทีเดียว “อาทิตย์ ดาวสว่าง” ก็มาโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้เชียงรายเหลือผู้เล่นเพียง 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 37

แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งเวลาแรก “เฟย” ศิวกร เตียตระกูล ก็ได้โอกาสแปบอลสวนตัว “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” เข้าประตูไป ให้เชียงรายไล่ตามมาเป็น 1-2 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง ก็ยังเป็นทั้ง 2 ทีม ที่ยังผลัดกันทำเกมรุกและรับอย่างสนุก แต่ในนาทีที่ 54 บุรีรัมย์ก็เกือบทำประตูหนีห่างจาก “โน้ต” จักรพันธ์ แก้วพรม” แต่บอลก็ยังไปโดนคานกระเด้งออกหลัง พลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

เกมในครึ่งหลังดำเนินไปอย่างดุเดือด มีการตัดฟาวล์จนเกมต้องหยุดหลายครั้ง จนในนาทีที่ 67 เชียงรายมาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการโหม่งแหวกผู้เล่นของบุรีรัมย์เข้าประตูไปแบบสวยงามของ “วิคเตอร์ คาร์โดโซ่”

ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย เชียงรายส่งไม้ตายตัวทีเด็ดในเกมรุกอย่าง “จ่าเย็น” มงคล ทศไกร ลงสนามมาแทน “เฟย” ศิวกร เตียตระกูล ผู้ที่ทำประตูแรกให้เชียงราย

และในช่วง 5 นาทีสุดท้าย บุรีรัมย์ก็ส่งโควต้าอาเซียนอย่าง “ฮอง วู แซมซัน” กองหน้าชาวเวียตนาม ได้โอกาสลงสนามแทน “สุภโชค สารชาติ” ทำให้ฮอง วู แซมซัน กลายเป็นผู้เล่นโควต้าอาเซียนคนแรก ที่ได้ลงสนามในเกมอย่างเป็นทางการเป็นคนแรก ของฤดูกาล 2018

และในนาทีที่ 87 ระบบวีดีโอช่วยตัดสิน หรือ VAR ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรก ในจังหวะที่ “ดิโอโก หลุยส์ ซานโต” ชักศอกใส่ “ปิยพล ผานิชกุล” ทำให้ศิวกร ภู่อุดม ผู้ตัดสินควักใบแดงโดยตรง ไล่ดิโอโกออกจากสนามทันที หลังจากดู VAR เสร็จสิ้น ทำให้ทั้ง 2 ฝั่งมีผู้เล่น 10 คนเท่ากัน

หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายไหนทำประตูได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินหาผู้ชนะด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ

ในการยิงจุดโทษตัดสิน ถือเป็นครั้งแรกในวงการฟุตบอลไทย ที่ใช้ระบบ ABBA ในการยิงลูกโทษตัดสิน

ในการยิง 5 คนแรกนั้น ต่างฝ่ายต่างยิงได้ทีมละ 4 ประตู ทำให้ยังเสมอกันอยู่ จึงต้องดวลลูกโทษแบบ Sudden Death เพื่อหาผู้ชนะ แบบ ABBA เหมือนเดิม

การยิงจุดโทษดำเนินไปจนกระทั่งทั้ง 2 ทีมยิงครบทั้ง 10 คน ก็ยังไม่สามารถหาผู้ชนะได้ จน “เคลตัน ซิลวา” ผู้ที่ยิงจุดโทษลูกแรกพลาด จะวนกลับมาเป็นฮีโร่ซัดประตูชัย ทำให้ สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด เอาชนะไปในการดวลจุดโทษ ด้วยสกอร์ 8-7 คว้าแชมป์ฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์ คัพ ได้เป็นสมัยแรกอย่างยิ่งใหญ่