รายการ |
|
---|---|
วันแข่งขัน |
คืนวันที่ 30 มิถุนายน 2567 |
สนาม |
อารีน่า เอาฟชาลเก้ (เฟ็ลทินส์-อาเรนา) |
ผลการแข่งขัน |
อังกฤษ *2-1 สโลวาเกีย (1-1 ใน 90 นาที) |
เกมสุดดราม่าระหว่างทีมชาติ อังกฤษ และ สโลวาเกีย จบลงไปด้วยชัยชนะของทีม สิงโตคำราม 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ โดยตลอดทั้งเกมวันนี้ สโลวาเกีย วางหมากมารับมือ อังกฤษ ที่กำลังอยู่ในช่วงขาดความมั่นใจมาเป็นอย่างดี ก่อนจะได้ประตูขึ้นนำจาก อิวาน ชรานซ์ ยิงด้วยหลังเท้าเข้าไปเป็น 1-0 หลังจากนั้นลูกทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต พยายามอย่างสุดความสามารถก่อนที่ ฟิล โฟเด้น จะมายิงประตูตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลังได้ แต่ก็ถูกริบคืนไปเพราะล้ำหน้า
อังกฤษ พยายามบุกอย่างสิ้นไร้ไม้ตอกอยู่นานจนเวลาล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 90+4 จู๊ด เบลลิ่งแฮม กระโดดตีลังกาฟาดบอลเข้าไปตุงตาข่ายช่วยให้ อังกฤษ ยังอยู่ในเกม ก่อนที่จะมารัวแซงเป็น 2-1 จากลูกโขกของ แฮร์รี่ เคน ตั้งแต่นาทีแรกของช่วงต่อเวลาพิเศษ กลายเป็นเกมสุดระทึกส่งพลพรรค สิงโตคำราม เข้าไปรอบ 8 ทีมได้สำเร็จ
จอร์แดน พิคฟอร์ด – 6.5/10
ถือว่าโอเคในเรื่องเกมรับ เพราะถ้าไม่นับลูกที่เสียประตูซึ่งเซฟยาก ก็ไม่ได้มีจังหวะอะไรให้น่ากังวล ส่วนเกมรุกพยายามฉีกตัวออกมาเป็นทางเลือกให้เพื่อนต่อบอล รวมถึงพยายามกระตุ้นเพื่อนให้ทำเกมขึ้นไปข้างหน้าแทนที่จะเคาะไปเคาะมาอยู่ด้านหลัง
คีแรน ทริปเปียร์ – แทง บอล ส เต็ ป ออนไลน์ 6.5/10
วันนี้ได้รับหน้าที่เติมขึ้นไปสูงเหมือนวิงแบ็คซ้าย ซึ่งก็ทำได้ดี สร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนได้มากที่สุดในเกม (4ครั้ง) น่าเสียดายที่ลูกได้ยิงโล่ง ๆ วางเท้าได้น่าผิดหวัง
ไคล์ วอร์คเกอร์ แทง บอล ยัง ไง – 6.5/10
มั่นคงในเกมรับวันนี้มาก ช่วยปัดกวาดลูกภาคพื้นดินได้ดี ส่วนเกมรุกยังคงต้องปรับปรุงอีก
จอห์น สโตนส์ – 6/10
ช่วงต้นเกมดูกดดันมากไปหน่อยจนบอลไม่ค่อยเชื่องเท้า แต่พอเล่นไปสักพักเริ่มกลับสู่มาตรฐานได้ แทง บอล ออนไลน์ 911 โดยเฉพาะช่วงท้ายเกมที่คอยรับมือการโจมตีของ สโลวาเกีย ได้ดี
มาร์ค เกฮี – 7/10
ต้นเกมดูโฉ่งฉ่างมากไปจนโดนใบเหลืองตั้งแต่นาทีที่ 3 ของเกม แต่เมื่อเริ่มเครื่องติด เกฮี โชว์ฟอร์มเทพสกัดกั้นลูกกลางอากาศได้มากที่สุดในเกมถึง 7 ครั้ง รวมทั้งเป็นคนโหม่งชงให้ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ยิงประตูสำคัญเข้าไปอีกด้วย
ดีแคลน ไรซ์ – 8/10
มีสถิติเกมรับดีที่สุดในทีมวันนี้ เข้าปะทะสำเร็จ 4 ครั้ง, ขัดขวางการส่งบอล 2 ครั้ง, เคลียร์บอล 2 ครั้ง ส่วนในเกมรุกก็ทำได้ดี มีจังหวะยิงชนเสาไปหนึ่งครั้ง
ค็อบบี้ ไมนู – 7/10
สอบผ่านในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางคู่กับ ดีแคลน ไรซ์ โดยเจ้าหนูวัย 19 ปีคนนี้ มีส่วนช่วยให้เกมแดนกลางของ อังกฤษ ไหลลื่นขึ้นอย่างชัดเจน มีจังหวะตะลุยผ่านคู่แข่งไปสวย ๆ แถมมีโอกาสสับไกยิงถึง 2 ครั้ง
จู๊ด เบลลิ่งแฮม – 8.5/10
วันนี้ จู๊ด กลับมาฟอร์มเทพอีกครั้งหลังจากหายไปสองแมตช์ โดยทั้งเกมเขาพยายามวิ่งสู้ฟัด เลี้ยง บุกทะลวง เข้าปะทะ เป็นทุกอย่างให้กับทีม ก่อนความพยายามจะสำเร็จผลเมื่อบอลลอยมาเข้าทาง จู๊ด ตีลังกาฟาดเข้าไปในนาทีบาป กลายเป็นประตูตีเสมอสำคัญสุดสวยงามที่ช่วยให้ อังกฤษ รอดพ้นจากความพ่ายแพ้
ฟิล โฟเด้น – 6/10
ยังคงต้องพยายามต่อไปสำหรับคีย์แมนจาก ถึงแม้วันนี้จะยิงประตูเข้าไปได้หนึ่งลูก แต่ก็ถูกริบคืนเพราะจัดระเบียบร่างกายได้ไม่ดีพอจนทำให้ตนเองล้ำหน้า
บูกาโย่ ซาก้า – 6.5/10
ฟอร์มกระเตื้องขึ้นกว่าในนัดที่ผ่านมา ทำสถิติเลี้ยงผ่านคู่แข่งมากที่สุดในเกม (4ครั้ง) มีจังหวะโดนจับไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายอยู่ช่วงหนึ่ง ซึ่งก็ทำได้โอเคเลยทีเดียว
แฮร์รี่ ตาราง บอล เคน – 7/10
มีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น แต่พลาดโอกาสสำคัญไปหลายครั้งอยู่ โชคดีที่มาแก้ตัวได้จากการยิงประตูพลิกขึ้นนำ ไม่งั้นคงโดนวิจารณ์หนักอีกตามเคย
โคล พาลเมอร์ (แทน คีแรน ทริปเปียร์ น. 66′) – 6.5/10
ลงมาช่วยให้ อังกฤษ มีมิติในเกมรุกมากขึ้น รวมถึงเป็นตัวช่วยครองบอลซึ่งก่อนหน้านั้นไม่มีใครในทีมกล้าเก็บบอลไว้กับตัวในแดนคู่แข่งเลย แต่โดยรวมไม่ได้มีจังหวะเทพเท่าเกมก่อน ๆ
เอเบรีชี่ เอเซ่ (แทน ค็อบบี้ ไมนู น. 84′) – 6.5/10
เป็นอีกหนึ่งคนที่ลงมาแล้วสร้างผลกระทบกับเกมได้ เพราะช่วยปั่นป่วนแนวรับคู่ต่อสู้ด้วยสเต็ปเท้าอันว่องไวและทักษะการเลี้ยงกินตัว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการครองบอลในแดนคู่แข่ง
ไอแวน โทนีย์ (แทน ฟิล โฟเด้น น. 90+3′) – 7.5/10
เรียกได้ว่าลงมาถูกที่ถูกเวลาสำหรับ ไอแวน โทนีย์ เพราะแม้จะได้เวลาลงสนามน้อยกว่าเพื่อน แต่เขาเป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์ให้ บอล วัน นี้ แฮร์รี่ เคน ยิงประตูชัยได้อย่างชาญฉลาด แถมเมื่อ อังกฤษ ต้องการรักษาสกอร์ โทนีย์ ก็เป็นตัวช่วยเก็บบอลยาวในแดนหน้าได้ดี รวมถึงในเกมรับ ส่วนสูงของเขาก็มีประโยชน์ในการป้องกันลูกนิ่งในช่วงท้ายเกมได้ดีด้วย
คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (แทน แฮร์รี่ เคน น. 106′) – N/A
เอซรี คอนซ่า (แทน จู๊ด เบลลิ่งแฮม น. 106′) – N/A
Recommend. :: ข่าวฟุตบอล สรุปผลบอลเมื่อคืน พรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 6 เมษายน พร้อมไฮไลท์-ตารางคะแนน : อาร์เซนอล, แมนซิตี้ เข้าวิน