รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2566
สนาม: แอนฟิลด์
ผลการแข่งขัน: ลิเวอร์พูล 1-1 อาร์เซน่อล
สู้กันอย่างคู่คี่สูสี สนุกตื่นเต้น ลุ้นกันมันหยดตั้งแต่นาทีแรกยันนาทีสุดท้าย โดยถือเป็นเซอร์ไพรส์เล็กๆ ว่า อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนแต่เนิ่นๆ เพียงแต่ความยอดเยี่ยมของ โม ซาลาห์ ก็ทำให้ แทง บอล วัน นี้ ดาบิด ราย่า ต้องยอมสยบ สุดท้าย กับ ก็จบที่ 1-1 บัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น และแม้อาจไม่ชนะที่ แอนฟิลด์ เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน แต่เก้าอี้จ่าฝูงก็ยังคงเป็นของ อาร์เซน่อล ต่อไป
อลิสซอน เบ็คเกอร์ – 7 – ไม่อาจกล่าวโทษได้กับการเสียประตูจากลูกตั้งเตะ นาทีที่ 4 แต่ต่อจากนั้นถือเป็นเกมที่ดี เล่นได้อย่างเหนียวแน่น สร้างความมั่นใจให้กับทั้งเพื่อนรอบข้างและแฟนบอล
คอสตาส ซิมิคาส – 6 – ล้มเจ็บอย่างโชคร้ายในจังหวะโดน บูกาโย่ ซาก้า แท็กจนล้มกระเด็นไปกระแทกพื้นนอกสนาม จนต้องเปลี่ยนออกหลังผ่านครึ่งชั่วโมงไปนิดเดียว โดยที่ตลอดเกมก่อนหน้านั้นก็ถือว่าเล่นได้ไม่แย่
เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ – 8 – สาดลูกขึ้นหน้าอย่างแม่นยำให้ โม ซาลาห์ ทำประตูตีเสมอ นอกเหนือไปจากฟอร์มที่ดีตลอดเกม ปิดเกมรุกของ อาร์เซน่อล ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ เว้นแค่ลูกที่เสียไปในนาทีที่ 4
อิบราฮิมา โกนาเต้ – 8 – แม้อาจมีส่วนต้องรับผิดชอบกับลูกแรกที่เสียอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นก็เล่นได้อย่างแข็งแกร่งอยู่ตลอด มีจังหวะดักตัดสวยๆ ให้เห็น แทง บอล 168 เช่นเดียวกับบล็อกลูกยิงสำคัญตอนท้ายเกม
เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ – 7 – ไม่ใช่เกมที่เปรี้ยงปร้าง และหายๆ ไปด้วยในหลายนาที แต่ก็เกือบทำประตูได้ตอนกลางครึ่งหลัง ที่ลูกยิงของเขาไปชนคานเข้าอย่างจัง ก่อนที่ตอนท้ายจะรอดตัวไม่เสียจุดโทษอย่างหวุดหวิด จังหวะชน ฮาแวร์ตซ์ ล้มลง
วาตารุ เอ็นโด – แทง บอล ส เต็ ป ออนไลน์ 7 – ปรับตัวเข้ากับ พรีเมียร์ลีก ได้อย่างยอดเยี่ยม เกมนี้แม้ไม่ได้ออกจอหรือมีบทบาทมากมาย แต่ก็มีวินัยในการเล่นสมกับความเป็นแข้งซามูไร ด้วยหน้าที่ดูแลเกมรับ ไม่ต้องใส่ใจเกมรุก
โดมินิค โซบอสซ์ไล – 6 – วิ่งเยอะขึ้นลงๆ ไม่มีหยุด แต่ก็เป็นเกมที่ไม่เฉิดฉาย มีโอกาสจบด้วยตัวเองนับครั้งได้ และไม่ได้สร้างอันตรายอะไรให้ ดาบิด ราย่า ต้องหนักใจ
เคอร์ติส โจนส์ – 6 – จ่ายพลาดจนเกือบมีเสียวจะโดนยิงตอนต้นเกม จากนั้นพยายามวิ่งขึ้นวิ่งลง แต่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรมากมายนัก และครึ่งหลังก็ถูกถอดออกไปพัก
หลุยส์ ดิอาซ – 7 – เล่นด้วยเทคสนิคสูง วูบวาบและสร้างปัญหาให้หลังบ้านทีมเยือนได้ตลอดเมื่อมีบอล เพียงแต่โอกาสในการโชว์ของก็มีไม่มาก และเข้าไปไม่ถึงจุดอันตราย
โคดี้ กัคโป – 7 – พยายามเต็มที่แล้วในการยืนค้ำหอกเป้า แต่วันนนี้ต้องยอมรับว่าเล่นได้เป็นรองคู่เซนเตอร์แบ็กทีมเยือน จนในที่สุดก็อยู่ไม่ครบ 90 นาที
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ – 8 – จังหวะง้างไกสับหนแรก น.14 เข้าข้างประตู แต่จากโอกาสถัดมาก็ทำได้อย่างสุดยอด กระชากหนี ซินเชนโก้ เข้าไปซัดแสกหน้า ดาบิด ราย่า เสยตาข่าย ส่วนเวลาที่เหลือแม้ไม่มีสกอร์ แต่ก็กดดันเกมรับ อาร์เซน่อล ได้ตลอดถ้ามีบอล
สำรอง
โจ โกเมซ (แทน คอสตาส ซิมิคาส น.35) – 7 – ทำหน้าที่แทน ซิมิคาส ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ยกใหญ่จังหวะลุยไปซัดเฉี่ยวเสา น.55
ไรอัน กราเฟนแบร์ก (แทน เคอร์ติส โจนส์ แทง บอล databet น.68) – 6 – ฟื้นฟิตกลับมาทันเวลา แต่ก็ไม่ได้ลงไปเปลี่ยนเกมพลิกกระดานอะไรได้ สำหรับช่วงเวลาที่ได้ลงสนาม
ดาร์วิน นูนเยซ (แทน โคดี้ กัคโป น.68) – 5 – เงียบไปนิดกับการลงสำรองท้ายเกม จนทำให้สถิติช่วงหลังออกมาย่ำแย่ต่อเนื่อง ยิงได้ลูกเดียวจากเกมลีกนับสิบนัดหลัง
ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ (แทน หลุยส์ ดิอาซ น.68) – 6 – ลงปุ๊บเสียวปั๊บ สบช่องตะบันจากนอกเขตโทษเฉี่ยวเสาแรก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้สร้างอิทธิพลอะไร
ดาบิด ราย่า – 7 – ไม่ใช่เกมที่โดนทดสอบอะไรมากมาย เมื่อตลอดทั้ง 90 นาทีรวมทดเจ็บ ลิเวอร์พูล สร้างจังหวะยิงตรงกรอบแค่ 3 หนเท่านั้น หนึ่งในนั้นคือลูกซัดสุดเฉียบของ ซาลาห์ ที่ ราย่า ทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ – 6 – เผชิญหน้ากับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อย่างแข็งแกร่งตลอดช่วงต้น แต่เผลอแวบเดียวเมื่อประกบห่างก็โดนลงโทษเลย และตลอดเกมถือว่าดร็อปๆ ลงไปหน่อย เป็นช่องให้เจ้าถิ่นได้ลุยเข้าหา
กาเบรียล มากัลเญส – 8 – ขึ้นโขกพังประตูให้ อาร์เซน่อล นำเร็วตั้งแต่ 3 นาทีครึ่ง ซึ่ง VAR ฟ้องไม่ล้ำหน้า และสอดประสานกับ ซาลิบา จนเกมรับของปืนโตไม่เสียไปมากกว่า 1 ลูก โดยเฉพาะการจัดการกับพระเอกอย่าง ซาลาห์
วิลเลี่ยม ซาลิบา – 8 – เล่นด้วยฟอร์มระดับติดเกรดเป็นส่วนใหญ่ สามารถรับมือกับความแข็งแกร่งของทั้ง กัคโป, ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ ได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วถือเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมอีกนัดของเซนเตอร์แบ็กฝรั่งเศส
เบน ไวท์ – 6 – มีการเล่นเกมรับที่ดีในการประมือกับตัวริมเส้นอย่าง หลุยส์ ดิอาซ รวมถึงหลังจากนั้นเมื่อ แทง บอล teenoi ดาร์วิน นูนเยซ ถูกเปลี่ยนลงมา แม้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนักก็ตาม
ดีแคลน ไรซ์ – 7 – ปักหลักดูแลเกมรับมากเป็นพิเศษ ซึ่งก็แน่นอนว่าช่วยหลังบ้านปืนใหญ่ได้มาก เป็นตัวตัดเกมที่สำคัญยิ่ง แต่เกมนี้ถือว่าขาดๆ ไปนิดเรื่องเกมรุก
ไค ฮาแวร์ตซ์ – 6 – แม้จะไม่ใช่เกมที่โผล่ขึ้นมายิงประตูได้ หรือมีส่วนกับผลสกอร์ที่เกิดขึ้น แต่ถือว่าไม่แย่ เมื่อทำหน้าที่ในฐานะ 1 ใน 3 มิดฟิลด์อย่างแข็งขัน มีประโยชน์ทั้งรุกรับ
มาร์ติน โอเดการ์ด – 6- ทำแอสซิสต์อย่างรวดเร็วให้ กาเบรียล มากัลเญส โขกเปิดสกอร์นำ 1-0 แต่หลังจากนั้นไม่สามารถทำอะไรเกมรับเจ้าถิ่นได้เพิ่มเติม และเกือบทำเสียจุดโทษอยู่เหมือนกัน
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ – 5 – ค่อนข้างเงียบในครึ่งแรก โดยหวิดบวกสกอร์ให้ทีมปืนโตนำอีกรอบ น.42 แต่ลูกยิงของเขาหลุดเสาไปนิดเดียว จากนั้นถือว่ามีเกมที่ไม่ค่อยดีนัก แพ้ในการดวลตัวต่อตัวแทบทั้งหมด
กาเบรียล เชซุส – 6 – มีโอกาสบวกเม็ดสองจากการตั้งป้อมซัดเน้นๆ น.13 แต่อัดข้ามคานไปเอง กระนั้นถือเป็นเกมที่ค่อนข้างเงียบ บอลมาไม่ค่อยถึง และไม่ได้โอกาสจู่โจม อลิสซอน สักเท่าไร
บูกาโย่ ซาก้า – 6 – ลากเลื้อยไม่ออกเท่าไหร่ในครึ่งแรก และทำได้ไม่สวยเท่าไหร่ในการอัดใส่ ซิมิคาส จนต้องเปลี่ยนตัวออก ส่วนเมื่อเป็น โจ โกเมซ ที่ลงมาเป็นคู่ต่อสู้ ก็ไม่สามารถเอาชนะได้เช่นกัน
สำรอง
เลอันโดร ทรอสซาร์ (แทน กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น.68) – 6 – ไม่สามารถสร้างผลงานได้เหมือนเกมก่อนๆ จากการลงสำรองยี่สิบกว่านาทีท้าย โดยไม่มีโอกาสได้เล่นกับบอลมากนัก
เอ๊ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (แทน กาเบรียล เชซุส น.77) – 6 – ไม่ใช่ตัวความหวังที่ อาร์เซน่อล จะฝากผีฝากไข้ได้สักเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งเป็นรองคู่เซนเตอร์เจ้าบ้าน แม้สภาพร่างกายจะสดกว่าก็ตาม
Recommend. :: ข่าวฟุตบอล นิวพอร์ท 2-4 แมนยู: ประเด็นหลังเกม ''ปีศาจแดง'' เกือบแย่ บุกอัดทีมจากลีก ทู ทะยานสู่รอบ 5 เอฟเอ คัพ