รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: 4-4
พรีเมียร์ลีก นัดซูเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เชลซี หมายมั่นปั้นมือจะสร้างความต่อเนื่อง ภายหลังบุกถล่ม สเปอร์ส 9 คน 4-1 ขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ก็หวังจะคว้าชัยเช่นกันเพื่อฉีกหนี อาร์เซน่อล ขึ้นไป 3 แต้มตามเดิม ทำให้ภาพออกมามันส์ยกร่องยิ่งกว่าหนังแอ็กชั่นฮอลลีวู้ด ผลัดกันนำผลัดกันตาม สุดท้ายจบที่ผลเสมอสุดเร้าใจ 4-4
โรเบิร์ต ซานเชซ – 6 – ทำอะไรไม่ได้กับลูกจุดโทษ แต่ถือว่าทำได้เยี่ยมเลยกับการเซฟลูกซัดเข้าข้อของ ฮาแลนด์ ตอนนาที แทง บอล ออนไลน์ teenoi 42 กระนั้นก็ป้องกันลูกโขกของ มานูเอล อคานจี ได้แค่สายตา เช่นเดียวกับประตูที่เสียเพิ่มทั้งหมด
มาร์ก กูกูเรย่า – 5 – เผชิญหน้ากับแนวรุก แมนฯ ซิตี้ ได้ดีทีเดียวในช่วงต้น แต่เมื่อพลาดแวบเดียวก็เสียจุดโทษเลยในจังหวะดึง ฮาแลนด์ ล้มลงช่วงนาที 22 ยังดีที่หลังจากนั้นไม่ได้ก่อความผิดพลาดสำคัญ เพียงแต่ก็รั่วไปหน่อยในการตั้งรับ
ติอาโก้ ซิลวา – 6 – สอดเข้าโขกเตะมุมที่จุดนัดพบ ตีเสมอให้ เชลซี 1-1 ก่อนครึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของเกมรับถือว่ามีช่องโหว่เยอะ และก็พลาดอย่างโชคร้าย ยืดขาสกัดลูกยิงของ โรดรี้ เปลี่ยนทางเข้าเสาสองไปพอดิบพอดี จนทีมเกือบจะแพ้คารัง
อักเซล ดิซาซี่ – 6 – เจองานหนักตลอดในการต้องตามประกบ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ โดยมีข้อผิดพลาดในลูกแซงนำ เว็บ พนัน แทง บอล คา สิ โน 3-2 ของ แมนฯ ซิตี้ ต้นครึ่งหลัง แต่นอกนั้นก็ถือว่าพยายามตั้งรับอย่างมีวินัย แม้จะไม่เหนียวแน่นมากนักก็เถอะ
รีซ เจมส์ – 7 – หวิดพังประตูตีเสมอจากฟรีคิกระยะอันตราย ที่ติดซูเปอร์เซฟ เอแดร์ซอน โมราเอส ก่อนที่จะทำแอสซิสต์ได้ในประตู 2-1 ของ สเตอร์ลิ่ง เท่ากับวันนี้เล่นดีเลยในส่วนของเกมรุก เพียงแต่ก็เป็นอีกนัดที่อยู่ไม่ครบเกม เมื่อเพิ่งหายเจ็บกลับมาไม่นาน
มอยเซส ไคเซโด้ – 7 – วิ่งขึ้นวิ่งลงเหมือนมี 2 ปอด แม้ยังไม่เนี้ยบเหมือน โคล้ด มาเกเลเล่ หรือ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ แต่ก็สร้างประโยชน์ได้เยอะพอสมควรกับการเล่นด้วนพลังงานสูง เสียอย่างเดียวว่าเกมรุกยังบอดๆ ไปนิด
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 5 – ไม่ใช่เกมที่น่าจดจำ ด้วยบอลวิ่งไปวิ่งมาผ่านตัวเขาเสียเป็นส่วนมากจนบทบาทการมีส่วนร่วมกับเกมถือว่าค่อนข้างต่ำ จนเป็นสองคนแรกที่ถูก โปเช็ตติโน่ สั่งเปลี่ยน
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 7 – ที่จริงค่อนข้างเงียบในครึ่งชั่วโมงแรก ที่เล่นแบบขาดๆ เกินๆ อยู่สักหน่อย แต่แล้วก็โผล่มายิงนำ 2-1 เฉยเลยจากการจ่ายให้ของ รีซ เจมส์ เช่นเดียวกับครึ่งหลังที่ไม่ได้เล่นกับบอลเยอะนัก แต่ก็พยายามเต็มที่ในการสร้างอันตราย ทั้งจบเองและจ่ายให้เพื่อน
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 7 – เป็นเจ้าของโอกาสจบตรงกรอบหนแรกของฝั่ง แทง บอล 123 เชลซี แต่ลูกยิงวอลเลย์หน้าเขตไปตรงตัว เอแดร์ซอน ไม่ยากนัก แล้วจากนั้นเล่นด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเต็มร้อย และมีส่วนกับประตู 3-3 ด้วยการยิงไกลไปติดเซฟเด้งออกมาให้ นิโคลัส แจ๊คสัน ซ้ำดาบสอง
โคล พาล์มเมอร์ – 8 – วูบวาบอันตราย เผชิญหน้ากับทีมเก่าอย่างมุ่งมั่น มีการเล่นที่เป็นประโยชน์ในหลายจังหวะ น่าเสียดายที่ยิงประตูไม่ได้หลังจากเลี้ยงลุยได้สวยแล้ว แต่ยิงไม่ผ่าน เอแดร์ซอน ในนาที 60 กระนั้นก็มากดจุดโทษของถนัดตอนทดเจ็บอย่างเยือกเย็น แบ่งแต้มด้วยผลเสมอ 4-4
นิโคลัส แจ๊คสัน – 6 – ค่อนข้างโดดเดี่ยวในฐานะหอกเป้า และเมื่อได้ลูกก็มักทำให้ผิดหวังมากกว่า เช่นจ่ายติดกองหลัง หรือยิงเบาหยองเข้ามือ เอแดร์ซอน อย่างไรก็ตาม ยังยิงตีเสมอ 3-3 ได้จากความผิดพลาดของ รูเบน ดิอาส
มาโล กุสโต้ (แทน รีซ เจมส์ น.64) – 5 – มีโอกาสดีแล้วในการทะลุเข้าไปส่องเน้นๆ ในนาที 75 แต่งัดข้ามคานอย่างน่าผิดหวัง
มิไคโล มูดริค (แทน เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.64) – 5 – มีส่วนร่วมกับประตูช่วงท้ายอยู่จางๆ แต่ก็ไม่ได้ส่งอิทธิพลมากมายในระดับที่จะเปลี่ยนเกมได้
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน มอยเซส ไคเซโด้ น.89) – 7 – ลงไปเรียกจุดโทษได้หลังอยู่ในสนามแค่ไม่กี่นาที และในจังหวะที่ยังไม่ทันได้ง้างยิงเลยก็โดน รูเบน ดิอาส เสียบเข้าใส่เต็มๆ
เลสลี่ย์ อูโกชุควู (แทน น.90+7) N/A มีหน้าที่แค่ลงไปปิดเกมในไม่กี่วินาทีท้าย
เอแดร์ซอน โมราเอส – 6 – ซูเปอร์เซฟฟรีคิก รีซ เจมส์ ช่วง น.29 แต่แวบเดียวถัดมาก็เสียท่าให้กับ ติอาโก้ ซิลวา และภาพรวมถือว่ามีเกมที่ไม่ดีนัก เมื่อเสียไปถึง 4 ประตู
ยอสโก้ กวาร์ดิโอล – 5 – พลาดหนักมากกับการกะจังหวะบอลผิด จนเปิดทางให้ รีซ เจมส์ ได้แอสซิสต์โล่งๆ ให้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยิงประตูแซงนำ 2-1 และก็มีส่วนต้องรับผิดชอบเช่นกันกับการเสียรวม 4 ลูก
มานูเอล อคานจี – 6 – ที่จริงเกมรับถือว่ายืนหลวมพอสมควรเลย ปล่อยให้ เชลซี มีโอกาสจบเยอะในครึ่งแรก แต่ก็ดันขึ้นไปโขกลูกตีเสมอ 2-2 ได้ในช่วงทดเจ็บ จากนั้นครึ่งหลังถือว่าประสานงานกับ รูเบน ดิอาส ได้ไม่สวย เสียเพิ่มอีก 2 เม็ด
รูเบน ดิอาส – 4 – ยืนหลวมชัดเจนในวันนี้เช่นเดียวกับคู่ขา โดยเฉพาะลูก 3-3 ที่ออกท่าสไลด์อย่างคาดไม่ค่อยถึง จนเป็นการเปิดพื้นที่ให้ นิโคลัส แจ๊คสัน ได้เก็บตกยิงง่ายๆ และยังมาพลาดซ้ำอีกในการพุ่งเสียบ อาร์มันโด้ โบรย่า จนเสียจุดโทษทดเจ็บ จนจบเกมที่ผลเสมอ 4-4
ไคล์ วอล์คเกอร์ – 5 – มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการเสียรวม 4 ลูก เช่นเดียวกับแนวรับคนอื่นๆ และยังทำเสียของด้วยการกดฟรีคิกในนาทีบาปข้ามไปแบบไม่ได้ลุ้น ทั้งที่น่าเล่นอย่างมีชั้นเชิงกว่านี้
แบร์นาร์โด้ ซิลวา – 6 – มี 1 แอสซิสต์ให้ มานูเอล อคานจี โขกตีเสมอ 2-2 ก่อนสิ้นครึ่งแรก แต่ตลอดเกมไม่ถือเป็นฟอร์มที่ยอดเยี่ยมนัก ถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานจากวันอื่นๆ
โรดรี้ – 7 – ยืนต่ำปักหลักเกมรับเป็นส่วนมาก แต่จากโอกาสจบหนแรกๆ แทง บอล ส เต็ ป ออนไลน์ ในช่วงท้ายเกม น.87 ก็กลายเป็นประตูตัดสินเกมทันที เมื่อลูกยิงของเขาไปแฉลบขา ติอาโก้ ซิลวา เปลี่ยนทางเข้าไปแบบมีโชค
เชเรมี่ โดกู – 5 – เงียบไปนิดในครึ่งแรก เมื่อบอลมาไม่ค่อยถึงจนไม่มีโอกาสโชว์ลีลา ส่วนครึ่งหลังดันไปพุ่งล้มจะเอาจุดโทษจนโดนใบเหลืองง่ายๆ และถูกเปลี่ยนออกเป็นคนแรก พร้อมกับที่ เป๊ป อบรมชุดใหญ่ข้างสนาม
ฮูเลียน อัลวาเรซ – 6 – บางจังหวะมีรีบเล่นเกินไปจนผิดพลาด และภาพรวมครึ่งแรกถือว่าค่อนข้างเงียบ บทบาทน้อย แต่ครึ่งหลังเล่นแค่นาทีเดียวก็แอสซิสต์ให้ ฮาแลนด์ เข้าชาร์จประตู 3-2
ฟิล โฟเด้น – 7 – เล่นด้วยคุณภาพสูง อันตรายและคุกคาม มาร์ก กูกูเรย่า อยู่ตลอดในทุกโอกาส โดยเฉพาะลูกตัดเข้าในไปยิงในนาที 35 ที่เฉี่ยวเสาแค่คืบเท่านั้น ต่อมาก็เล่นอย่างมีประโยชน์อยู่ตลอด สร้างปัญหาให้หลังบ้าน เชลซี จนจบ
เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ – 8 – เรียกจุดโทษได้อย่างรวดเร็วในนาที 22 และรับหน้าที่สังหารเองเข้าไปอย่างไม่กดดัน เปิดสกอร์นำ 1-0 ตามด้วยต้นครึ่งหลังพุ่งเข้าชาร์จลูกจ่ายของ อัลวาเรซ เป็นประตูนำอีกรอบ 3-2 จนน่าเสียดายว่าลูกยิงเข้าข้อ 1 ครั้งไปติดซูเปอร์เซฟ โรเบิร์ต ซานเชซ ไม่เช่นนั้นคงแฮตทริกไปแล้วอีกเกม
แจ๊ค กรีลิช (แทน เชเรมี่ โดกู น.59) – 6 – พยายามแล้วแต่ไม่ได้ส่งอิทธิพลกับเกมนัก และยังไปมีเรื่องปะทะคารมจนเสียใบเหลือง
มาเตโอ โควาซิช (แทน ฮูเลียน อัลวาเรซ น.79) – 5 – ไม่สามารถทำหน้าที่ปิดเกมตรึงสกอร์นำได้อย่างที่โค้ชต้องการ แต่ก็คงโทษกันไม่ได้เมื่อความผิดพลาดของ รูเบน ดิอาส ทำให้เกิดผลเสมอในท้ายที่สุด
Recommend. :: รีวิวฟุตบอล ลิเวอร์พูล 3-1 เลสเตอร์: เก็บตกศึก คาราบาว คัพ รอบ 3 พร้อมตัดเกรดนักเตะ และประเด็นหลังเกม