รายการ |
เอฟเอ คัพ 2023/24, รอบ 8 ทีมสุดท้าย |
---|---|
วันแข่งขัน |
วันอาทิตย์ ที่ 17 มีนาคม 2024 |
สนาม |
โอลด์ แทรฟฟอร์ด |
ผลการแข่งขัน |
แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 ลิเวอร์พูล (90 นาที เสมอ 2-2) |
อองเดร โอนาน่า – 7/10
เซฟสำคัญลูกยิงของ หลุยซ์ ดิอาซ ในครึ่งแรก และ โดมินิค โซโบซไล รวมถึง ดาร์วิน นูเญซ ในครึ่งหลัง
อารอน วาน-บิสซาก้า – 7/10
หายเจ็บกลับมาและยืนตัวจริงในตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นนัดที่ 2 ในฤดูกาลนี้ เข้าใจว่า เอริค เว็บ แทง บอล ออนไลน์ เทน ฮาก ต้องการให้มารับมือกับ โม ซาลาห์ เพราะเขาเป็นนักเตะที่เก่งในด้านเกมรับ
เขาดักตัดบอลได้ 4 ครั้ง ขณะที่แง่เกมรุก เขาเติมเกมรุกได้ไหลลื่น และเล่นเข้าขากับเพื่อนร่วมทีมทางกราบซ้าย
ราฟาแอล วาราน – 6/10
เคลียร์บอลพ้นจากแดนอันตรายได้หลายครั้ง แต่จังหวะดวลตัวต่อตัวเขาเอาชนะ ดาร์วิน นูเญซ ไม่ได้ในครึ่งหลัง
วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ – 6/10
ออกสตาร์ทด้วยการจับคู่กับ วาราน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์-ฮาล์ฟ ก่อนจะถูกโยกไปยืนแบ็กซ้ายอีกครั้ง หลังจากที่ วาน-บิสซาก้า ถูกเปลี่ยนออกในช่วง 20 นาทีสุดท้าย
เขาดักตัดบอลได้ 1 ครั้ง, บล็อคลูกยิงไป 3 ครั้ง และมีโอกาสเติมเกมรุกขึ้นมาลุ้นทำประตู
ดิโอโก้ ดาโลต์ – 6/10
หุบเข้ามาในตำแหน่งมิดฟิลด์ในบางช่วงของเกม และคอยรับมือกับ หลุยส์ ดิอาซ เมื่อถอยกลับไปประจำตำแหน่งแบ็กขวา เขาช่วยสกัดบอลและแท็คเกิ้ลได้หลายครั้ง
สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ – 7/10
1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์สำหรับเขาในเกมนี้ ทั้งวิ่งขึ้น-วิ่งลง ช่วยทั้งเกมรุกและเกมรับ เขายิงจ่อ บอล ๆ ให้ทีมออกนำอย่างรวดเร็วตั้งแต่ 10 นาทีแรก เท่ากับว่า เขากดไปแล้ว 9 ลูกในฤดูกาลนี้รวมทุกรายการ
ค็อบบี้ ไมนู – 8/10
จัดเป็นเกมที่เขาโชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจ เขาเริ่มต้นได้อย่างน่าตื่นเต้น พาบอลขึ้นไปข้างหน้าได้ดี มีส่วนร่วมกับการสร้างเกมรุกของทีมหลายครั้ง ในเเง่เกมรุกเขาทำได้เยี่ยมเลยล่ะ เขาดักตัดบอลได้ 2 ครั้ง แม้ว่าบางจังหวะจะออกลูกผิดพลาดเมื่อเจอผู้เล่น ลิเวอร์พูล เพรสซิ่งใส่
อเลฮานโดร การ์นาโช่ – 6/10
วูบวาบ เล่นด้วยความมั่นใจ คุกคามแนวรับ ลิเวอร์พูล ได้หลายครั้ง แต่บางครั้งก็ล้มเพื่อเรียกฟาวล์ง่ายเกินไปหน่อย
บรูโน่ แฟร์นันด์ส (กัปตัน) – 6/10
ถอยลงมาเชื่อมเกม ออกบอลเร็วให้เพื่อนได้เปรียบในช่วงที่ทีมขึ้นนำ 1-0 ก่อนจะมาก่อความผิดพลาดทำให้ทีมเสียประตูที่ 2 เขาควรจะก้มหน้าก้มตาเล่นมากกว่าบ่นพร่ำเพรื่อใส่ผู้ตัดสิน
มาร์คัส แรชฟอร์ด – 7/10
มีโอกาสยิงให้ทีมออกนำเร็วตั้งแต่ 5 ufabet369 นาทีแรก แต่ไปติดเซฟ ควีวิน เคลเลเฮอร์ จอมหนึบมือสองทีมเยือน อย่างไรก็ตาม เขามีส่วนช่วยให้ทีมได้ประตูออกนำ 1-0
ในครึ่งหลังช่วงทดเจ็บ เขาพลาดโอกาสทองอย่างน่าเหลือเชื่อ จากจังหวะหลุดเข้าไปตัว-ตัวกับ แทง บอล auto เคลเลเฮอร์ แต่ก็มาแก้ตัวได้ในครึ่งหลังของช่วงต่อเวลาพิเศษ
ราสมุส ฮอยลุนด์ – 5/10
กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังก่อนหน้านี้เจอโรคเดี้ยงเล่นงาน เกมนี้เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสยิงมากนัก
อันโตนี่ (แทน ฮอยลุนด์ น.71) – 8/10
เขาสมควรได้รับเครดิตในเกมนี้ เขาช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้ คงไม่มีใครคาดคิดว่าเขาจะทำประตูได้ แถมเป็นการยิงด้วยเท้าขวาข้างไม่ถนัดด้วย
แฮร์รี่ แม็คไกวร์ (แทน วาน-บิสซาก้า น.71) – 6/10
อีกหนึ่งคนที่หายเจ็บกลับมา เขาช่วยสกัดบอลได้หลายครั้ง และบางช่วงที่ทีมตามหลัง เขาถูกดันให้ไปยืนแดนหน้าเพื่อลุ้นทำประตู
คริสเตียน เอริคเซ่น (แทน ไมนู น.80) – 6/10
ผ่านบอลยาวสวย ๆ ไปให้ แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปลุ้นทำประตูในช่วงทดเจ็บ แต่โชคไม่ดี (ประตูที่ เอเลียต ยิงให้ ลิเวอร์พูล นำ 3-2) บอลมันไปแฉลบโดนขาเขาเปลี่ยนทางเข้าไป
อาหมัด ดิยัลโล่ (แทน วาราน น.85) – 8/10
2 จังหวะที่ต้องชื่นชมเขา 1. ประตูที่ทีมตีเสมอ 3-3 เขาไปดักทางเปิดบอลของ นูเญซ และ 2. ซัดประตูชัยให้ทีมแซงชนะ 4-3
เมสัน เมาท์ (แทน ลินเดอเลิฟ น.106) – ไม่มีคะแนน
หายหน้าหายตาไปนานเพราะเจ็บจนต้องพักยาว เขาสัมผัสบอลไปเพียง 3 ครั้ง
Recommend. :: ข่าวฟุตบอล ฟูแล่ม 2 – 1 อาร์เซนอล : เก็บตกหลังเกม ปืนใหญ่ ฟอร์มกู่ไม่กลับพ่ายส่งท้ายปี 2023