“ทรูวิชั่นส์” ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก ทำหนังสือตอบกลับไปยังสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ว่าการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมการแข่งขัน ต้องเป็นไปตามข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย และทางบริษัทมีสิทธิ์จะไม่จ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ จนกว่าสมาคมฯ จะทำตามสัญญา
โดยในหนังสือตอบกลับดังกล่าว มีใจความว่า
การจะเปลี่ยนแปลงกำหนดแข่งขัน ต้องเป็นไปตามข้อตกลง และยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ ไม่ได้เป็นผู้ชนะในการประมูลถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยในปีต่อไป จึงบริหารลิขสิทธิ์รายการกีฬาต่างๆ รวมทั้งวางกลยุทธ์ และลงทุน ในกรณีที่ไม่มีฟุตบอลไทยลีกไว้แล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแผนได้ เพราะเพิ่มภาระค่าใช้จ่าย และอุปสรรคด้านการตลาด ตารางแข่งใหม่ จึงไม่ได้รับความเห็นชอบจากทรู ทั้งนี้จากการประกาศของภาครัฐบาล สมาคมฯ สามารถจัดแข่งขันได้ทันที เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับ ทรู หากขยายไปถึงเดือน พ.ค. 2564 เป็นการผิดสัญญา หาก สมาคมฯ ไม่สามารถจัดแข่งขัน และนำส่งสัญญาณถ่ายทอดสดฟุตบอลให้ ทรูวิชั่นส์ตามกำหนด
ทรูวิชั่นส์ มีสิทธิ์ระงับการชำระค่าสิทธิประโยชน์ถ่ายทอดสดฟุตบอลปี 2563 งวด 2/3 และไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินตามใบแจ้งหนี้ดังกล่าว จนกว่าสมาคมฯจะทำตามสัญญา
ทั้งนี้ ทรูวิชั่นส์ จะชำระค่าสิทธิประโยชน์ถ่ายทอดสดตามเงื่อนไขดังนี้
1.ชำระค่าสิทธิประโยชน์ สำหรับฤดูกาล 2563 คำนวณมูลค่าของค่าสิทธิดังกล่าวเฉพาะจากนัดที่แข่งจริง และเป็นไปตามสัญญา
2.เนื่องจากมีการลดจำนวนทีมไทยลีก 1 จาก 18 เป็น 16 ทีม การแข่งขันลดลงจาก 306 นัด เหลือ 240 นัด คิดเป็นไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ค่าสิทธิประโยชน์ จึงต้องคำนวณลดตามสัดส่วนดังกล่าว
3.หากจะจัดแข่งแบบไม่มีผู้ชมในสนาม ทรูวิชั่นส์ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะชำระเงินค่าสิทธิ โดยคำนวณจากมูลค่าการแข่งขันที่ลดลง ทั้งนี้ ขอให้ สมาคมฯ จัดแข่ง และส่งสัญญาณถ่ายทอดสด ภายใน 14 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ
ขอให้ยกเลิกใบแจ้งหนี้ฉบับลงวันที่ 4 มิ.ย. และติดต่อมายังทรูวิชั่นส์ เพื่อเจรจากำหนดค่าสิทธิประโยชน์และเวลาชำระเงินใหม่ ให้สอดคล้องกับจำนวนการแข่งขัน รูปแบบ และวิธี หากไม่ได้รับการติดต่อใน 14 วัน ขอสงวนสิทธิ์จะดำเนินการตามกฎหมาย