“ลิริดอน คราสนีคี” มิดฟิลด์ตัวรุกทีมชาติมาเลเซียตัวโอนสัญชาติ ของนิวคาสเซิ่ล เจ๊ทส์ ทีมในศึกเอลีก ออสเตรเลีย เปิดเผยว่าชีวิตของตนเองเคยทำงานเป็นคนงานก่อสร้างมาก่อนที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ เพื่อหาเลี้ยงครอบครัวในสมัยที่ต้องอพยพไปอยู่ในเยอรมนีเพื่อหลีกเลี้ยงสงครามกลางเมือง
โดย “คราสนีคี” ufa365 ได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของตัวเองกับเว็บไซต์สโมสรนิวคาสเซิ่ล เจ๊ทส์ ว่า
ตอนที่ผมยังเด็ก ผมอยู่ข้างถนน และต้องไปทำงานเป็นคนงานก่อสร้างหลายชั่วโมงต่อวันที่เยอรมนี เพื่อนำเงินมาดูแลค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ถึงแม้ว่าผมจะต้องทำงานก่อสร้าง แต่ผมก็ยังใช้เวลาว่างฝึกฟุตบอลด้วยตัวเอง ไม่ว่าฝนตก หิมะตก หรือลมพายุ ผมก็จะฝึกหนักอยู่อย่างนั้น เพราะผมรู้ว่าเดี๋ยวโอกาสก็จะมาถึงและผลักดันให้มีโอกาสกลับมาเล่นฟุตบอลอาชีพ
การได้มาเล่นในมาเลเซีย ค่อนข้างไกลจากบ้านของผม(โคโซโว) ผมไม่เคยคาดหวังว่าจะไปได้ไกลกว่านั้น
ผมถือว่าช่วงเวลาที่เล่นในมาเลเซียประสบความสำเร็จมากที่สุด ผมรักประเทศนี้มาก
“คราสนีคี” เคยผ่านการเป็นนักเตะเยาวชนของ “เนิร์นแบร์ก” และ “สลาเวีย ปราก” ก่อนจะเทิร์นโปรเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับ “มิลาดา โบเลสลาฟ” ทีมในลีกสูงสุดของสาธารณรัฐเช็ก ในปี 2011 และย้ายไปเล่นกับ “อันคาราสปอร์” ทีมในลีกรองของตุรกี ในปี 2013 ก่อนจะย้ายมาเล่นในมาเลเซีย กับ “เคดาห์ เอฟเอ” ในปี 2015 และได้มีโอกาสแจ้งเกิดอย่างเต็มตัว ด้วยผลงานลงสนามให้กับทีม 67 นัด รวมทุกรายการ ยิงไป 19 ประตู พาทีมคว้าแชมป์มาเลเซีย พรีเมียร์ลีก 2015 เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในลีกสูงสุด และคว้าแชมป์บอลถ้วยของมาเลเซียได้ครบทั้ง 3 รายการ ได้แก่ มาเลเซีย คัพ ในปี 2016 และ มาเลเซีย ซูเปอร์คัพ กับ มาเลเซีย เอฟเอคัพ ในปี 2017
หลังจากนั้นในปี 2019 “คราสนีคี” ได้ย้ายไปอยู่กับ “มะละกา ยูไนเต็ด”ก่อนที่ในปี 2020 เขาจะย้ายไปอยู่กับยักษ์ใหญ่ของลีกอย่าง “ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม” พร้อมกับการได้รับโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต นั้นคือการได้รับสัญชาติมาเลเซีย และมีโอกาสได้ติดทีมชาติมาเลเซีย ก่อนจะถูกส่งตัวให้ “นิวคาสเซิ่ล เจ๊ทส์” ยืมตัวไปใช้งานในปี 2021
Cr. ภาพ : Newcastle Jets