รายการ: ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2023/24
วันแข่งขัน: วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 2566
สนาม: สแตมฟอร์ด บริดจ์
ผลการแข่งขัน: 3-2 ไบรท์ตัน
เป็นที่จับตามองมากว่า เชลซี จะฮึดขึ้นหรือไม่หลังหลุดแพ้ นิวคาสเซิ่ล มายับเยิน 1-4 ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อ ไบรท์ตัน ออกหนืดๆ ตลอดช่วงหลัง ซึ่งทีมตราสิงห์ก็เริ่มต้นเกมอย่างไฉไล นำเร็วถึง แทง บอล databet 2 ลูกจาก เอ็นโซ เฟร์นานเดซ และ ลีวาย โคลวิลล์ เพียงแต่ประตูตีไข่แตกของ ไบรท์ตัน ที่มาใกล้ๆ กับใบแดงของ คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ทำให้ เชลซี เจองานหนักมากในครึ่งหลัง ก่อนที่จะเข้าป้ายกำชัยแบบลุ้นใจแทบขาด 3-2
โรเบิร์ต ซานเชซ – 6 – แอบเหวอเล็กน้อยช่วงนาที เว็บ พนัน แทง บอล คา สิ โน บา คา ร่า 27 ที่จับบอลคืนหลังพลาด ยังดีที่บอลไม่แรง และหันกลับไปเล่นได้ทัน จากนั้นเสียประตูจากลูกตรงกรอบหนแรกของ ไบรท์ตัน และแม้จะมีเซฟสวยๆ ท้ายเกม ก็ยังไม่วายเสียลูก 2 จากเตะมุม อยู่ดี
ลีวาย โคลวิลล์ – 7 – โถมเข้าโขกเน้นๆ ในนาที 21 ที่แม้จะถูกเคลียร์ออกมา แต่โกลไลน์เทคโนโลยีฟ้องว่า สมัคร แทง บอล ออนไลน์ โคลวิลล์ ส่งลูกข้ามเส้นไปเรียบร้อย ส่วนภาพรวมอาจมีความสั่นไหวบ้าง แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และการที่โดนเป่าจุดโทษ 90+9 เป็นความมั่วซั่วของผู้ตัดสินมากกว่า ก่อนที่จะได้ VAR ช่วยไว้
ติอาโก้ ซิลวา – 6 – แม้ในครึ่งแรกจะไม่โดนทดสอบหนัก เมื่อ อีแวน เฟอร์กูสัน ค่อนข้างหายจากเกม แต่เมื่อเข้าช่วงชี้ขาดแล้วก็เจองานหนักอย่างต่อเนื่อง และโงนไปเงนมาพอสมควร
เบอนัวต์ บาเดียชิล – 7 – แสดงตัวว่ามีประโยชน์กับเกมรุกอีกครั้ง ด้วยการตวัดเปิดบอลเตะมุมกลับเข้าไปให้ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ โขกประตูนำ ขณะที่ในเกมรับถือว่าเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ไม่ถือว่าเล่นพลาดแม้จะเสีย 2 ประตูก็ตาม
อักเซล ดิซาซี่ – 6 – ถูกถ่างออกไปยืนแบ็กขวาเมื่อ รีซ เจมส์ ติดโทษแบน ซึ่งก็ชัดเจนว่าพยายามเน้นเกมรับมากกว่าเติมขึ้นสูงเหมือนตอนมี เจมส์ ในสนาม เท่ากับเกมบุกฝั่งขวา เชลซี เกมนี้ค่อนข้างหาย
มอยเซส ไคเซโด้ – 6 – เป็นอีกคนที่ได้ดวลกับทีมเก่า และรักษาตำแหน่งจัดการหน้าที่ของตัวเองอย่างเคร่งครัด เป็นด่านแรกที่เกมรุก ไบรท์ตัน ต้องเจออยู่ตลอดสำหรับการพยายามเจาะตรงกลาง แต่ก็โดนเหลืองเร็วในครึ่งหลัง ที่ทำให้ต้องเล่นแบบยั้งๆ ตลอดช่วงที่เหลือ
เอ็นโซ เฟร์นานเดซ – 8 – เริ่มต้นเกมได้เยี่ยมกับการโผล่มาโขกเตะมุมเป็นประตูนำ 1-0 ใน 18 นาทีแรก จากนั้นก็พยายามเล่นอย่างมีวินัยในแดนกลาง กระทั่งโอกาสเปิดให้ได้ซัดจุดโทษต้นครึ่งหลัง ซึ่งก็ทำสำเร็จไม่ผิดพลาด เป็นการซัด 2 ลูกในเกมเดียว หนแรกตั้งแต่ย้ายมา
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง – 6 – มีส่วนร่วมกับเกมเยอะในช่วงต้น และดูเล่นอย่างกระตือรือร้น ไฟแรงดี สร้างปัญหาให้เกมรับทีมเยือนชัดเจน แต่หลังจากนั้นก็เงียบๆ ไป โดยเฉพาะเมื่อ ไบรท์ตัน พลิกมาเป็นฝ่ายครองเกมแล้ว
คอนเนอร์ กัลลาเกอร์ – 4 – สวมปลอกแขนกัปตันทีม และพยายามวิ่งพล่านเชื่อมเกมทั้งรุกรับ แต่ความขยันมากไปก็กลายเป็นเหตุให้โดน 2 เหลือง โดยเฉพาะทดเจ็บครึ่งแรกที่ไปเสียบใส่ บิลลี่ กิลมัวร์ แทง บอล ออนไลน์ จนโดนไล่ออก และเพื่อนต้องเล่นด้วยความเสียเปรียบตัวผู้เล่นตลอดครึ่งหลัง
มิไคโล มูดริค – 7 – ครึ่งแรกออกเงียบๆ ต่างจากเพื่อนแนวรุกไปสักนิด โดยมีโอกาสพลิกบอลสวยๆ นาที 39 ไปส่องเข้าข้อหน้าเขตโทษ แต่ลูกเฉี่ยวเสาไป อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังสร้างจุดเปลี่ยนสำคัญ เรียกจุดโทษได้ในนาที 64 ที่ทำให้สกอร์ถ่างอีกครั้งเป็น 3-1
นิโคลัส แจ๊คสัน – 5 – ได้บอลเยอะตอนต้น แต่ทำเสียแทบทุกครั้งไป ไม่ว่าจะจ่ายพลาดหรือโดนตัดลูกก็ตาม แล้วจากนั้นถือว่าน่าแปลกใจเหมือนกันที่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่เลือกถอดออกแต่เนิ่นๆ เมื่อการเล่นของ แจ๊คสัน ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย เก็บบอลแดนหน้าก็ไม่ได้
สำรอง
โคล พาล์มเมอร์ (แทน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น.66) – 6 – ไม่ได้อยู่ในฟอร์มวูบวาบอันตรายเหมือนก่อนหน้านี้ ครั้นมีโอกาสยิงไกลครึ่งสนามตอนทดเจ็บ แต่น้ำหนักก็ขาดไปเยอะ จนลูกตรงตัวนายทวารรับไว้ง่ายๆ
ยาน มาตเซ่น (แทน นิโคลัส แจ๊คสัน น.72) – 7 – ลงไปช่วยอุดเกมรับเมื่อเข้าช่วงชี้เป็นชี้ตาย ซึ่งก็ถือว่าทำได้ไม่แย่ แม้จะช่วยป้องกันลูก 2-3 ไม่ได้ก็ตาม
อาร์มันโด้ โบรย่า (แทน มิไคโล มูดริค น.81) – 6 – ไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเมื่อบอลมาไม่ถึง สำหรับการลงไปค้ำหน้าเป้าตอนสิบนาทีท้าย บวกกับอีกสิบกว่านาทีทดเจ็บ แถมยังมีแตกต้องออกจากสนามแวบหนึ่งด้วย
Recommend. :: เว็บบอลเงินชัวร์ เชลซี 4-0 เปรสตัน : ประเด็นจากเกม เอฟเอ คัพ นัด สิงห์น้ำเงิน เข้าฝักครึ่งหลัง ได้ลุ้นทำ 'ดับเบิ้ลแชมป์' – FEATURE