Preview ฟุตบอลโลก 2018 กลุ่ม H

 โปแลนด์

• FIFA World Rankings : 10
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 7 ครั้ง – 1938, 1974, 1978, 1982, 1986, 2002, 2006
• ผลงานดีที่สุด : อันดับ 3 – 1974 และ 1982
• กัปตันทีม : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)
• ดาวเด่น : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (บาเยิร์น มิวนิค)

ผลงานของโปแลนด์ในการทำคะแนนไต่อันดับ FIFA World Rankings ในเกมอุ่นเครื่องช่วงฟีฟ่าเดย์ ทำออกมาได้ค่อนข้างดี หลังขึ้นไปแตะอันดับ 10 ของโลก แม้อาจจะมีฟอร์มช่วงที่ดาวน์ลงไปบ้าง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “อินทรีขาว” ตัวนี้ ทำผลงานได้ค่อนข้างคงเส้นคงวามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา นำทัพมาโดยหัวหอกฟอร์มฮ็อตอย่าง “โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้” จากบาเยิร์น มิวนิค โดยในรอบคัดเลือก พวกเขาเอาชนะไปได้ถึง 8 จาก 10 เกม ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในฐานะแชมป์กลุ่มแบบไม่ยากเย็นนัก และยิ่งผลการจับฉลากที่ค่อนข้างเป็นใจ เพราะอยู่ในโถ 1 และเจอกับทีมดูเป็นรองกว่าทั้งสิ้น น่าจะทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้แบบไม่ยากเย็นนัก

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 19 มิ.ย. พบ เซเนกัล
  • 24 มิ.ย. พบ โคลอมเบีย
  • 28 มิ.ย. พบ ญี่ปุ่น

  เซเนกัล

• FIFA World Rankings : 28
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 1 ครั้ง – 2002
• ผลงานดีที่สุด : รอบ 8 ทีมสุดท้าย – 2002
• กัปตันทีม : ชีคคู คูยาเต้ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
• ดาวเด่น : ซาร์ดิโอ มาเน (ลิเวอร์พูล)

หลายคนคงจะยังจำผลงานอันยอดเยี่ยมของเซเนกัล เมื่อครั้งที่ “สิงโตแห่งทารันก้า” เข้าร่วมฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ด้วยการเปิดหัวเกมแรกด้วยการเอาชนะแชมป์เก่าอย่างฝรั่งเศส และสามารถทะลุเข้าไปได้ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ก่อนที่จะพ่ายให้กับตุรกี ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจว่าพวกเขาใช้เวลาถึง 16 ปีเต็มเพื่อกลับไปเล่นฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 ของพวกเขา ส่วนทีมชุดนี้คุมทัพโดยอดีตดาวเตะที่เคยลงสนามในฟุตบอลโลกปี 2002 อย่าง “อาลิยู ซิสเซ” และจะมีกำลังหลักในแนวรุกอย่าง “ซาร์ดิโอ มาเน” หัวหอกตัวเก่งจากลิเวอร์พูล แม้เพิ่งพลาดท่าตกรอบก่อนรองฯ ในฟุตบอลแอฟริกัน เนชั่นคัพ 2017 มาก็ตาม

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 19 มิ.ย. พบ โปแลนด์
  • 24 มิ.ย. พบ ญี่ปุ่น
  • 28 มิ.ย. พบ โคลอมเบีย

 โคลัมเบีย

• FIFA World Rankings : 16
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก : 5 ครั้ง – 1962, 1990, 1994, 1998, 2014
• ผลงานดีที่สุด : รอบ 8 ทีมสุดท้าย – 2014
• กัปตันทีม : ราดาเมล ฟัลเกา (โมนาโก)
• ดาวเด่น : ฮาเมส โรดริเกวซ (บาเยิร์น มิวนิค)

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 19 มิ.ย. พบ ญี่ปุ่น
  • 24 มิ.ย. พบ โปแลนด์
  • 28 มิ.ย. พบ เซเนกัล

 ญี่ปุ่น

• FIFA World Rankings : 60
• เข้าร่วมฟุตบอลโลก  : 5 ครั้ง – 1998, 2002, 2006, 2010, 2014
• ผลงานดีที่สุด : รอบ 16 ทีมสุดท้าย – 2002 และ 2010
• กัปตันทีม : มาโกโตะ ฮาเซเบะ
• ดาวเด่น : เคซึเกะ ฮอนดะ

ทีมชาติญี่ปุ่น ถือเป็น 1 ใน 3 ทีม ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่ผ่านการเจอกับทีมชาติไทย ในรอบคัดเลือก

การเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ก่อนเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลกเพียง 3 เดือน ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีของพวกเขาสักเท่าไหร่ หลังจากที่ปลด “วาฮิด ฮาลิลฮอดซิด” กุนซือชาวบอสเนีย ออกจากตำแหน่งในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา แล้วแต่งตั้ง “อากิระ นิชิโนะ” ขึ้นมารับตำแหน่งนี้แทน และการที่พวกเขาพลาดตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอเชียนคัพ 2015 บวกกับการแพ้ต่อยูเออีในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบที่ 3 และผลงานอุ่นเครื่องในปีนี้ ที่ลงสนามไปแล้ว 3 นัด ยังไม่ชนะใคร ทำให้ “ซามูไรบลู” จากเอเชียตะวันออกทีมนี้ กลายเป็นม้านอกสายตาไปโดยปริยาย

• โปรแกรมแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม
  • 19 มิ.ย. พบ โคลอมเบีย
  • 24 มิ.ย. พบ เซเนกัล
  • 28 มิ.ย. พบ โปแลนด์

ฟันธงทีมที่เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย : โปแลนด์ , โคลัมเบีย