“ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม” ทีมจากมาเลเซีย สามารถเก็บคะแนนแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอล AFC Champions League 2019 ได้สำเร็จ หลังเปิดบ้านเสมอกับ “กยองนัม เอฟซี” ทีมจากเกาหลีใต้ ไปด้วยสกอร์ 1-1
โดยในเกมนี้ ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ต้องเปลี่ยนผู้รักษาประตูก่อนที่จะลงสนาม เนื่องจาก “ฟารีซาล มารีอาส” ผู้รักษาประตูที่ถูกส่งลงเป็นตัวจริงในตอนแรก มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ “อิซฮาม ตามีซี” ผู้รักษาประตู มือ 2 ลงสนามแทน และไม่มีประตูสำรอง
เริ่มเกมมากลายเป็นยะโฮร์ เจ้าบ้าน ที่เปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที และในนาทีที่ 13 ยะโฮร์ได้โอกาสลุ้นครั้งแรกจากการยิงไกลจากฝั่งขวาของ “ซาฟาวี ราซิด” แต่บอลโค้งหลุดเสาแรกไปแบบได้ลุ้น
ต่อมาในนาทีที่ 15 ยะโฮร์ได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ “ซาฟาวี ราซิด” ยิงไปติดแนวรับของกยองนัม และเป็น “นาซมี ฟาอิซ” ที่ยิงจากแถวสองแต่บอลไปเข้ามือ “ลี บัม ซู” ผู้รักษาประตูของกยองนัม
นาทีที่ 21 ยะโฮร์ได้โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งจากการยิงบริเวณริมกรอบเขตโทษของ “ซาฟาวี ราซิด” แต่บอลโด่งข้ามคาน
ยะโฮร์เจ้าบ้านยังคงบุกไม่ยั้ง และในนาทีที่ 25 ยะโฮร์เกือบได้ประตูจากจังหวะที่ “คุนาลัน สุบรามาเนียม” เปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” ตีลังกาวอลเลย์ด้วยขวาแต่บอลเหินข้ามคานไป
กยองนัมได้โอกาสบุกขึ้นมาบ้างในนาทีที่ 32 จากจังหวะสวนกลับเร็ว และเป็น “เนกูบา” กองหน้าชาวบราซิล ที่แตะบอลหลบ “อิซฮาม ตามีซี” ผู้รักษาประตูของยะโฮร์มาได้ แต่กลายเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
นาทีที่ 36 กยองนัม เอฟซี เกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกของ “จอร์แดน มัชต์” แต่ “อิซฮาม ตามีซี” ผู้รักษาประตูของยะโฮร์ยังบินปัดออกหลังไปได้แบบหวุดหวิด
ยะโฮร์มาได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” ไหลบอลให้กับ “อฟิค ฟาซาอิล” ที่โฉบเข้ามายิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลลอยเหินออกไป
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก กยองนัมเกือบจะได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุมของ “จอร์แดน มัชต์” และเป็น “ควัก แต-ฮวี” ที่ได้เทคตัวขึ้นโหม่ง แต่บอลเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
เริ่มเกมในครึ่งเวลาหลัง กลายเป็นฝั่งของกยองนัม ที่เริ่มตั้งเกมและสร้างโอกาสได้ และในนาทีที่ 52 จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ “ลี ยอง-แจ” และเป็น “ควัก แต-ฮวี” ที่เทคตัวโหม่งเข้าไป ส่งให้กยองนัม เอฟซี ขึ้นนำไปก่อน 1-0
มาถึงในนาทีที่ 62 ยะโฮร์มาได้โอกาสจากลูกฟรีคิกของ “นาซมี ฟาอิซ” และเป็น “เมาริซิโอ ซานโตส” ที่พุ่งตัวโหม่งแต่บอลหลุดเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 66 จากจังหวะที่ยะโฮร์ได้ลูกเตะมุม และเป็น “ซอง จู-ฮุน” แนวรับของทีมเยือนทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษ ทำให้ผู้ตัดสิน “โมฮันหนัด คาสซิม ซาร์รี” เป่าให้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ให้ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ตีเสมอเป็น 1-1
มาถึงในนาทีที่ 72 ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ “ซาฟาวี ราซิด” ลากบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนจะยิงไปชนเสาในจังหวะแรก แต่ “กอนซาโล คาเบร์ร่า” ยังตามมาซ้ำในจังหวะสอง แต่บอลกลับไปชนคาน ก่อนที่แนวรับของกยองนัมจะเคลียร์บอลทิ้งออกไป พลาดโอกาสได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย
ในนาทีที่ 75 ยะโฮร์ได้ลุ้นอีกครั้งจากการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษของ “อดัม นอร์ อัซลิน” แต่บอลนั้นแรงมากจน “ลี บัม-ซู” ผู้รักษาประตูของกยองนัมรับกระฉอกหลุดจากซอง แต่แนวรับของกยองนัมยังช่วยไว้ได้
ยะโฮร์มาได้โอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 81 จากจังหวะโซโล่ลากเดี่ยวๆ ของ “ซาฟาวี ราซิด” ก่อนจะตัดสินใจยิง แต่บอลเหินข้ามคานไป
ในนาทีที่ 88 ยะโฮร์เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะที่ “อัซรัฟ นาชรุลฮัค” เปิดมาให้กับ “ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต” ในกรอบเขตโทษ แต่บอลเช็ดคานนอกเด้งออกหลังไปแบบน่าเสียดายสุดๆ
หลังจากนั้นยะโฮร์พยายามที่จะเปิดเกมบุกเข้าไปทำประตู แต่ก็ไม่สำเร็จ จบเกมไปด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน และเป็นคะแนนในประวัติศาสตร์ของยะโฮร์ ดารุล ทักซิม ในการแข่งขัน ACL อีกด้วย
หลังจบเกมนี้ ยะโฮร์ มี 1 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัด ส่วนกยองนัม มี 2 คะแนน จากการลงสนาม 2 นัด ยังคงต้องตามหาชัยชนะนัดแรกกันต่อไปทั้งคู่
https://twitter.com/TheAFCCL/status/1105478475039662080
Cr. ภาพ : The-AFC.com