“ทัพช้างศึก” ทีมชาติไทย ใกล้แชมป์สมัยที่ 6 แบบสุดๆ หลังเป็นฝ่ายเอาชนะ “ทัพการูด้า” ทีมชาติอินโดนิเซีย ไปด้วยสกอร์ 4-0 ในศึกฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2020 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร
โดยในเกมนี้ ทีมชาติอินโดนิเซีย มีการปรับทัพเล็กน้อยจากรอบรองชนะเลิศ ufa365 นำโดย “นาเดโอ อาร์กาวินาตา” ผู้รักษาประต ตามด้วย “ฟัชรุดดิน อาร์ยานโต” และ “ริซกี้ ริโด้” ส่วนแนวรุก มี “ริคกี้ คัมบัวย่า” และ “อิรฟาน จายา” ยืนเป็นหน้าต่ำ และ “เดดิก เซเตียวาน” ยืนเป็นหน้าเป้า
ส่วนทีมชาติไทย จัดผู้เล่นชุดสำรองลงมาเกือบครึ่งทีม นำโดย “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” ผู้รักษาประตู ที่ได้โอกาสลงมาเฝ้าเสาแทน “ฉัตรชัย บุตรพรม” ที่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนแนวรับ มี “ฌอเลียส ดอเลาะห์” และ “กฤษดา กาแมน” ส่วนแนวรุก มี “สุภโชค สารชาติ” และ “บดินทร์ ผาลา” ยืนเป็นหน้าต่ำ และ “ธีรศิลป์ แดงดา” เป็นหน้าเป้า
เริ่มเกมไปได้ไม่นาน ทีมชาติไทยเป็นฝ่ายได้บุกทันที และในนาทีที่ 2 จากจังหวะที่ “ฟิลิป โรลเลอร์” พาบอลลากเลื้อยหลบตัวประกบของอินโดนิเซีย ก่อนจ่ายให้กับ “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ยิงเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม พาทีมชาติไทยขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว 1-0
ทีมชาติไทยยังคงได้บุกอย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่ “สุภโชค สารชาติ” ครอสบอลให้กับ “บดินทร์ ผาลา” ได้ยิงจ่อๆ แต่บอลไปแนวรับของอินโดนิเซีย ที่สกัดอยู่บนเส้นพอดี ก่อนที่ “เอเลียส ดอเลาะห์” จะได้โหม่งซ้ำอีกจังหวะ แต่บอลข้ามคานไป
นาทีที่ 29 ทีมชาติไทยได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ “บดินทร์ ผาลา” จ่ายให้กับ “ธีรศิลป์ แดงดา” ได้ยิงในกรอบเขตโทษ แต่ไม่เต็มแรง บอลหลุดกรอบออกไป
อินโดนิเซียเป็นฝ่ายได้ลุ้นบ้าง ในนาทีที่ 36 จากจังหวะที่ “อัสนาวี บาฮาร์” พาบอลมาตรงกลาง ก่อนจ่ายให้กับ “ริคกี้ คัมบัวย่า” ได้ยิง แต่บอลหลุดกรอบอกไป
และในนาทีที่ 41 อินโดนิเซียเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะโต้กลับเร็ว และเป็น “วิตาน สุไลมาน” พาบอลมาทางซ้าย ก่อนจ่ายเปลี่ยนแกนให้กับ “อัลเฟอันดรา เดวังก้า” ได้ยิงโล่งๆ ในกรอบเขตโทษ แต่กลับยิ่งข้ามคานไปอย่างเหลือเชื่อ
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 45+2 ทีมชาติไทยเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ “สุภโชค สารชาติ” จ่ายให้กับ “บดินทร์ ผาลา” ได้ยิง แต่ไปติดเซฟ “นาเดโอ อาร์กาวินาตา” ผู้รักษาประตูอินโดนิเซีย ปัดทิ้งออกหลังไปได้
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบครึ่งแรกเป็นทางด้านของทีมชาติไทย เป็นฝ่ายขึ้นนำอยู่ 1-0
มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง อินโดนิเซียมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเอา “เอลคาน แบกกอต” กองหน้าร่างโย่ง และ “อีวาน ดีมาส” แนวรับตัวเก๋า ลงสนามมาแทน “ฟัชรุดดิน อาร์ยานโต”และ “เอโด เฟอร์บิยานชาห์”
และในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ทีมชาติไทยได้สวนกลับเร็ว และเป็น “สุภโชค สารชาติ” ได้เลี่ยงเดี่ยวเข้ามาในกรอบเขตโทษ แต่หาช่องยิงไม่ได้ ก่อนจ่ายให้กับ “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ยิงแหวกแนวรับเข้าไปอย่างเด็ดขาด พาทีมชาติไทยหนีห่างเป็น 2-0
ในนาทีที่ 62 อินโดนิเซียเกือบได้ประตูตีตื้น จากจังหวะที่ “ริคกี้ คัมบัวย่า” จ่ายออกข้างให้กับ “อิรฟาน จาย่า” ได้ยิงจ่อๆ แต่ไปติดขาของ “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน” ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย เซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 67 จากจังหวะที่ “ฟิลิป โรลเลอร์” ครอสบอลมาให้กับ “สุภโชค สารชาติ” ได้ยิงเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม พาทีมชาติไทยหนีห่างเป็น 3-0
ในนาทีที่ 74 ทีมชาติไทยตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู โดยเอา “กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์” ลงมาเฝ้าเสาแทน “ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน”
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 83 จากจังหวะที่ “วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ” ได้บอล ก่อนจ่ายให้กับ “บดินทร์ ผาลา” ยิงเข้าไปไม่เหลือ พาทีมชาติไทยหนีห่างเป็น 4-0
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเป็นทางด้านของทีมชาติไทย เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-0 เก็บชัยชนะไปก่อนในเกมแรก
ในเกมนัดที่ 2 ทีม ทีมชาติไทย จะสลับฝั่งไปเป็นเจ้าบ้าน ในวันที่ 1 ม.ค. 2022 เวลา 19.30 น. ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร
Cr. ภาพ : AFF