ฟุตบอลบอลเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องกันหวัง 3 แชมป์เหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ได้แชมป์ไทยลีก และ รีโว่ คัพ มาแล้ว พบกับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่สนามธรรมศาสตร์ สเตเดี้ม
เกมนี้ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ใช้ วิลเล่น โมต้า เป็นหน้าเป้า โดยมี ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร กับ ปกเกล้า อนันต์ เชื่อมเกมกลางสนาม
ทางฝั่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดเต็มชุดดีที่สุด โดยส่งกำลังหลักทั้ง ธีราทร บุญมาทัน, พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด และ โจนาธาน โบลินกิ ลงกันครบ
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 18 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาคลายความกดดันได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จังหวะนี้ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจากซ้ายขึ้นหน้าเข้ากลาง ศุภชัย ใจเด็ด โหม่งเช็ดบอลขึ้นหน้า มานูเอล ทอม เบียรห์ กองหลังแข้งเทพ เก็บบอลได้พยายามจ่ายบอลคืนหลังสั้นเกินไป โจนาธาน โบลินกิ ที่วิ่งกดดันอยู่ตรงนั้นได้บอลก่อนจะเลี้ยงเข้าเขตโทษแล้วยิงผ่านตัว ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด เข้าไป
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+4 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูเพิ่ม จากจังหวะเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลไปที่เสาแรก โจนาธาน โบลินกิ วิ่งมาโหม่งบอลย้อยไปเสียบเสาสองเข้าประตูไป เป็นประตูที่ 2 ให้ทีมและตัวเอง จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ 2-0
กลับมาครึ่งหลัง แบงค็อก ยูไนเต็ด พยายามลุยใส่ ผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกม ก็ยังไม่สามารถเจาะเรียกประตูตีไข่แตกได้
นาทีที่ 63 ปราสาทสายฟ้า มาได้ลุ้น ศุภชัย ใจเด็ด ได้บอลหน้ากรอบประตู ก่อนจะตัดสินใจยิงตูมเดียวจากระยะไกลบอลพุ่งเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 71 แข้งเทพ ได้ฟรีคิกที่กึ่งกลางสนาม ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ เปิดบอลไปหน้ากรอบเขตโทษ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา โหม่งสกัดบอลไปได้ก่อนจะมีอันตราย
นาทีที่ 79 ธีราทร บุญมาทัน เปิดเตะมุมทางซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษมีเป้าหมายที่ ลอนซานา ดุมบูญา แต่ทว่า เอเวอร์ตัน กอนคัลเวส ชิงโหม่งสกัดบอลเอาไว้ได้ก่อน
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 90+1 ผู้ตัดสินเข้าไปดู VAR ก่อนจะกลับมาควักใบแดงไล่ โจนาธาน โบลินกิ ออกจากสนาม จากจังหวะที่ไปบีบคอใส่ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ซึ่งหลังจากโดนใบแดงยังมีการออกหมัดใส่สต๊าฟของ แบงค็อกอีก 1 ครั้ง ซึ่งทางสต๊าฟฟ์ บียู ก็ถูกไล่ออกด้วยเช่นกัน หลังจากนั้น แบงค็อก แม้มีผู้เล่นมากกว่าแต่เวลาน้อยเกินไปก็เรียกประตูกลับมาไม่ได้ จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0 ทำได้ตามเป้า เป็นแชมป์ 3 รายการ 2 ฤดูกาลติดคือ รีโว่ไทยลีก รีโว่ คัพ และ ช้างเอฟเอ คัพ
โดยบุรีรัมย์ แชมป์จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท รวมไปถึงสิทธิ์ในการไปแข่งขันรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2023/24 ส่วนแบงค็อก ยูไนเต็ด รองชนะเลิศ รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท