“ดร.ก้อง” ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการความร่วมมือพัฒนากีฬาฟุตบอลของประเทศ ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งแรก โดยมี “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะรองประธานคณะฯ ร่วมด้วย ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ กกท.หัวหมาก โดยได้มีการพูดถึงการเตรียมเป็นเจ้าภาพฟุตบอล AFC U23 Championship 2020 ที่ประเทศจะเป็นเจ้าภาพในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งได้เลือกใช้ทั้งหมด 4 สนาม ได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และ สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา แต่ทั้ง 4 สนามยังต้องปรับหลายจุด
ส่วนทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ AFC จะส่งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสนามครั้งสุดท้ายเดือน ก.ย.-ต.ค. ซึ่งหากทั้ง 4 สนาม ไม่สามารถปรับปรุงซ่อมแซมให้เสร็จทันตามกำหนด อาจจะโดนริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพคืน และอาจส่งผลให้ทีมชาติไทย U23 ตกรอบทันทีอีกด้วย เนื่องจากคะแนนในรอบคัดเลือก “ทัพช้างศึก U23” ไม่ใช่ 1 ใน 15 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ
ทั้งนี้ ถ้าหากประเทศไทยถูกทาง AFC ริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพในรายการนี้คืน จะมี 2 ชาติที่รอเข้ามาเสียบแทน ได้แก่ เกาหลีใต้ และ มาเลเซีย ที่มีความพร้อมเต็มที่ในเรื่องของสนามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ส่วน “ดร.ก้อง” ยังมั่นใจว่า ทั้ง 4 สนามจะปรับปรุงเสร็จทันตามกำหนดที่ AFC วางไว้ เนื่องจากบอร์ดของ กกท. ได้อนุมัติงบประมาณมาแล้วกว่า 500 ล้านบาท เพื่อที่จะนำไปปรับรุงทั้งสิ้น 3 สนาม ได้แก่ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี และ สนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ จ.นครราชสีมา ซึ่งสนาม 80 พรรษาฯ จะใช้แข่งกีฬาคนพิการ และเป็นสนามสำรองที่จะใช้ใน AFC U23 และมีข้อจำกัดเรื่องระบบราชการ ทำให้ในเดือน ต.ค. จะปรับปรุงเสร็จเพียง 60-70% และจะเสร็จสมบูรณ์ 100% เดือน ธ.ค. แต่อย่างไรก็ตาม กกท. และสมาคมฯ จะตั้งคณะกรรมการเร่งรัดขึ้นมา เพื่อให้ทั้ง 4 สนามปรับปรุงเสร็จทันตามกำหนด
Cr. ภาพ : The-AFC.com