เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 14 ก.ค. ณ ห้องประชุมชั้น 2 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หัวหมาก ได้มีการประชุมร่วมกัน ระหว่างสมาคมฯ กับ ฝ่ายจัดการแข่งขัน บ.ไทยลีก จำกัด เพื่อหารือถึงแนวทางจัดปฏิทินการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ รายการ ไทยลีก 1-3 ประจำปี 2020 เพื่อเตรียมความพร้อม และวางแผนเกี่ยวกับตารางการแข่งขัน ก่อนจะเข้าสู่การเจรจาและพูดคุยกับบริษัท ทรูวิชั่นส์ จํากัด(มหาชน) ต่อไป
โดย “บิ๊กโจ” พาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้กล่าวภายหลังการประชุมว่า
การประชุมวันนี้เกิดขึ้นหลังจากได้รับหนังสือตอบจากทางบริษัททรูวิชั่นส์ ซึ่งสมาคมฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้าเจรจาเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของฤดูกาลนี้กับทรูวิชั่นส์
โดยที่จะคำนึงประโยชน์และทางออกที่ดีที่สุด และเป็นไปได้สำหรับทุกๆฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทรูวิชั่นส์ สมาคม สโมสรและนักกีฬา ทุกองค์ประกอบจะต้องถูกนำมาพิจารณาให้รอบครอบถี่ถ้วน และครบถ้วน
เบื้องต้นมีการทำหนังสือสอบถามไปยังสโมสรสมาชิก เพื่อให้สมาคมฯ และไทยลีกได้ทราบถึงสถานการณ์ปัจจุบันว่าสโมสรต่างๆ พร้อมที่จะฝ่าฟันไปด้วยกันสามารถเข้าร่วมกิจกรรม ลงแข่งขันฟุตบอลระดับต่างๆ ในฤดูกาลนี้ได้ หลังจากที่ทุกๆฝ่ายได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 รวมถึงสมาคมเช่นกัน
ก่อนที่จะหารือกับสโมสรสมาชิกนั้น สมาคมฯคงต้องขอทราบมูลค่าที่ทรูจะนำเสนอในกรณีจะถ่ายทอดสดหลังจากเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นสมาคมฯ จะนำข้อมูลดังกล่าว กับตัวเลือกรูปแบบการแข่งขันที่สามารถจัดลงในปฏิทินการแข่งขัน เพื่อหารือกับสโมสรว่ามีความต้องการจะลงแข่งขันในรูปแบบใดที่เหมาะสมที่สุด
ขอยกตัวอย่างเช่น หากมีการตกลงที่จะแข่งขันทุกแมตช์ของฤดูกาลภายในสิ้นปีนี้ สโมสรสามารถยอมรับความถี่ในการลงแข่งขันของแต่ละแมตช์อาจจะต้องลงสนาม 2-3 วันต่อนัด เพื่อให้สโมสรได้ลงเล่นครบจำนวน 26 แมตช์ที่เหลืออยู่ ประกอบกับเงินสนับสนุนที่สโมสรจะได้รับ ก็ขึ้นอยู่กับการเจรจากับทรูวิชั่นส์ และคำนึงถึงความเหมาะสมกับสภาพร่างกายนักกีฬาและการบริหารจัดการด้านอื่นๆของสโมสร สมาคมจะแจ้งให้สโมสรได้ทราบรายละเอียด ร่วมกันพิจารณาเร็วๆนี้
หรือในกรณีที่สโมสรสมาชิกต้องการเสนอให้กลับมาแข่งขันก่อนเดือนกันยายนที่เคยมีมติจากสโมสรในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คงมีการหารือสโมสรสมาชิกให้ครบถ้วน ว่าสามารถยอมรับได้หรือไม่กับการเริ่มการแข่งขันโดยขาดผู้เล่นต่างชาติที่ยังไม่สามารถมาร่วมทีมได้ และกระทบต่อช่วงเวลาการโอนย้ายผู้เล่นและลงทะเบียนที่สโมสรอาจจะต้องคำนึงถึง ถ้าเป็นช่วงเวลาเดิม
รวมถึงสมาคมฯคงต้องบริหารจัดการ แผนการเตรียมทีมชาติไทยในช่วงเดือนใหม่เช่นกัน เพื่อให้ฟุตบอลลีกสามารถแข่งขันได้ตามช่วงเวลาที่กำหนด
โดยสรุปสมาคมฯ จะบริหารจัดการเรื่องการแข่งขันให้ได้ประโยชน์ที่ดีที่สุด ภายใต้สถานการณ์ที่ยากลำบากนี้
Cr. ภาพ : FAThailand.org