“แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ยังคงมีลุ้นอันดับที่ 3 หลังบุกไปเอาชนะ “มังกรโล่ห์เงิน” โปลิศ เทโร เอฟซี ไปด้วยสกอร์ 4-1 ในศึกฟุตบอลไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก 2021/22 ที่สนามบุณยะจินดา
โดยในเกมนี้ เป็นทางด้านของแบงค็อกที่ได้ลุ้นก่อน ufa365 ในนาทีที่ 7 จากจังหวะที่ “เฮเบอร์ตี้ เฟร์นานเดส” เปิดให้กับ “ทริสตอง โด” ได้โหม่งเต็มหัว แต่บอลยังไปเข้ามือของ “สินทวีชัย หทัยรัตนกุล” ผู้รักษาประตูของเทโร รับไว้ได้
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 9 แบงค็อกบุกขึ้นมา และเป็น “วานเดอร์ หลุยส์” เปิดให้กับ “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” ชาร์จจ่อๆ เข้าไป พาแบงค็อกขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0
ในนาทีที่ 21 แบงค็อกได้เฮต่อเนื่อง จากจังหวะที่ “เฮเบอร์ตี้ เฟร์นานเดส” เปิดให้กับ “วานเดอร์ หลุยส์” ได้ยิงจังหวะแรกไปติดเซฟ บอลไปเข้าทาง “ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์” ยิงจังหวะสองไปติดเซฟอีกครั้ง ก่อนที่ “ชนานันท์ ป้อมบุปผา” จะมาซ้ำอีกจังหวะเข้าไป พาแบงค็อกขึ้นนำ 2-0
แต่หลังจากเสียประตูไม่นาน ในนาทีที่ 23 เทโรเกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ “ชุมพล บัวงาม” ฉกบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายให้กับ “เอวานโดร เปาลิสต้า” ได้ยิงโล่งๆ แต่ “วรุฒ เมฆมุสิก” ผู้รักษาประตูของแบงค็อก ยังตามมาเซฟได้ทัน
ในนาทีที่ 36 แบงค็อกมาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ “เฉลิมศักดิ์ อักขี” ไปทำฟาวล์ใส่ “ชนานันท์ ป้อมบุปผา” ล้มลงในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นจุดโทษทันที แต่ก่อนที่จะยิง ผู้ตัดสินได้รับสัญญานจากห้อง VAR ก่อนจะเข้าเช็คด้วยตัวเอง แล้วพบว่าจังหวะดังกล่าวเป็นจังหวะเข้าที่บอล จึงกลับคำตัดสินยกเลิกจุดโทษดังกล่าวไป
หลังจากนั้นยังไม่จังหวะใดเพิ่มเติม จบครึ่งแรก เป็นทางด้านของแบงค็อก เป็นฝ่ายขึ้นนำไปก่อน 2-0
มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 49 จากจังหวะลูกเตะมุมของเทโร และเป็น “อาทิตย์ บุตรจินดา” ตีลังกาจักรยานอากาศยิงเข้าไป พาเทโรไล่ตามมาเป็น 1-2
จากนั้นไม่นาน นาทีที่ 58 “เฮเบอร์ตี้ เฟร์นานเดส” โชว์เหนือยิงไกลเสียใต้คานเข้าไปอย่างสุดสวย พาแบงค็อกหนีห่างเป็น 3-1 พร้อมส่งให้เฮเบอร์ตี้ เป็นดาวซัลโวตลอดกาลของศึกไทยลีก ที่ 145 ประตู เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในนาทีที่ 61 เทโรต้องมาเหลือผู้เล่น 10 คน จากจังหวะที่ “ยศศักดิ์ เชาวนะ” ไปมีปากเสียงกับผู้ตัดสิน ก่อนที่ผู้ตัดสินจะแจกใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดง ไล่ออกจากสนาม
และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+4 แบงค็อกมาได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ “เลสลีย์ อัลโบร์ห” ไปกระแทกใส่ “รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก” ล้มในกรอบเขตโทษ ซึ่งในจังหวะแรกผู้ตัดสินเป่าให้เป็นฟรีคิก ก่อนจะสื่อสารกับห้อง VAR และกลับคำตัดสินให้เป็นลูกจุดโทษ และเป็น “เฮเบอร์ตี้ เฟร์นานเดส” รับหน้าที่สังหารเข้าไป พาแบงค็อกนำห่างเป็น 4-1
หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเป็นทางด้านของทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 4-1 เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ
Cr. ภาพ : True Bangkok United