เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ห้อง 127 ภายในสนามราชมังคลากีฬาสถาน ได้มีการแถลงข่าวความพร้อมก่อนเกมเกมการแข่งขันฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2018 ระหว่าง “ทีมชาติไทย” พบ “ทีมชาติสิงคโปร”
โดยทีมชาติไทย ที่ในเกมนี้ต้องการเพียงผลเสมอก็จะเข้ารอบทันที มีทางด้านของ “มิโลวาน ราเยวัช” กุนซือของทีม และ “ศุภชัย ใจเด็ด” กองหน้าดาวรุ่งที่ทำไปแล้ว 2 ประตู จาก 3 นัดที่ผ่านมา เข้าร่วมแถลงข่าว
โดยกุนซือชาวเซอร์เบียของทัพช้างศึก ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า
หลังกลับจากฟิลิปปินส์ การฝึกซ้อมทุกอย่าง เป็นไปตามแผนที่เราวางไว้ การที่ทั้งสองกลุ่ม ยังมีโอกาสลุ้นเข้ารอบถึง 3 ทีม มันแสดงให้เห็นว่า การแข่งขันรายการนี้ เป็นรายการที่มีคุณภาพมากๆ และเรายังต้องทํางานหนักต่อไป
ส่วนตัว แม้ว่าเราจะเสมอมาในเกมล่าสุด แต่เกมนี้ ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร ผมคิดว่าเกมนั้น เราเสียประตูเพราะความโชคร้ายด้วย แต่ก็ต้องชื่นชม ฟิลิปปินส์ เช่นกัน ที่เล่นได้ดี แต่เราลืมผลการแข่งขันเกมนั้นไปหมดแล้ว และ แน่นอนว่าเรากําลังโฟกัสอย่างเต็มที่ ในเกมกับ สิงคโปร์
ผมมองว่า สิงคโปร์ ชุดนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่วินัยในการเล่น และเท่าที่ผมศึกษา ผู้เล่นทุกคน ก็เล่นได้ตามแท็คติคของโค้ชมากๆ และอย่างที่เคยบอกไป เราไม่สามารถประมาททุกทีมได้เลย แต่เราก็เตรียมทีมมาดีเช่นกัน ที่สําคัญการที่เราได้เล่นในบ้าน เราก็หวังว่าจะได้ผลการแข่งขันที่ดี
ขณะที่เกมล่าสุดที่เรามีการเปลี่ยนแปลงผู้รักษาประตู จริงๆ ผมคิดว่า ทั้ง แชมป์ (ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน) และ บอย (ฉัตรชัย บุตรพรม) มีศักยภาพที่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว ทําให้ในแต่ละเกม เราสามารถเลือกใช้ได้ทั้ง 2 คน ดังนั้น ผมคิดว่า มันไม่ใช่ปัญหาอะไรสําหรับเรา และผมเชื่อมั่นในตัวลูกทีมทุกคน เพราะ ทั้งหมด คือผู้เล่นที่ดีที่สุด และ ผมเป็นตัดสินใจเรียกมา
ในแง่แท็กติก ผมไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้ก่อนเกมอยู่แล้ว ผมคงตอบไม่ได้ว่า เราจะเล่นอย่างไร แต่เราจะเล่นในแนวทางของเรา ผลการแข่งขันเป็นสิ่งสําคัญที่สุด และ ตอนนี้ ทุกคนก็มีสมาธิเต็มที่ ก่อนพบกับ สิงคโปร์
ส่วน “เจ้าอาร์ม” ได้เปิดเผยความพร้อมกับผู้สื่อข่าวว่า
สภาพทีมตอนนี้สมบูรณ์เต็มที่ครับ แม้ว่าเราจะเหนื่อยล้าจากการเดินทางอยู่บ้าง แต่เราก็มีโปรแกรมฟื้นฟูสภาพร่างกายกัน ดังนั้นผมคิดว่าเราจะฟิต 100% เมื่อถึงวันแข่งขันครับ
การเจอ สิงคโปร์ ก็ไม่ใช่งานง่ายครับ และพูดตามตรง มันก็ไม่ง่ายทุกเกมอยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่โค้ชบอก เรามีการเตรียมทีมที่ดีอยู่ตลอด ดังนั้น ผมเชื่อว่าเราจะสามารถเก็บ 3 คะแนนสําคัญ เพื่อผ่านเข้ารอบต่อไปได้ และก็หวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาให้กําลังใจเรากันเยอะๆ ครับ
ส่วนทีมชาติสิงคโปร ที่ในเกมนี้พวกเขาต้องการชัยชนะเท่านั้นเพื่อผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ได้ส่งทางด้านของ “ฟานดี้ อาหมัด” กุนซือของทีม และ “ฮาริส ฮารูน” มิดฟิลด์เข้าร่วมงานแถลงข่าวในครั้งนี้
โดยกุนซือดีกรีอดีตตำนานทีมชาติสิงคโปร ได้เปิดเผยถึงความพร้อมกับผู้สื่อข่าวว่า
เป็นเรื่องที่ดีมากกับผลการแข่งขันในเกมที่ผ่านมา (เปิดบ้านชนะ ติมอร์ เลสเต 6-1) เพราะลูกทีมผมรวมใจและสร้างผลงานได้ดี แต่เรารู้ดีทีมชาติไทยเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังได้เล่นในบ้าน แต่เราก็มีความเชื่อเล็กๆ ว่าจะสร้างผลงานและผ่านเข้ารอบได้”
เราเดินทางมาที่นี่ เราไม่มีอะไรจะเสีย สิงคโปร์ ถูกหลายๆ คนดูถูก โดยเฉพาะแฟนบอลของเราที่คิดว่าพวกเราอาจมาไม่ได้ไกล แต่ในตอนนี้เราได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเรามีโอกาสที่จะผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ และผมเชื่อว่าหากทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียว เรามีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ได้แน่นอน
เรามีนักเตะสิงคโปร์มาเล่นที่ไทย และคิดว่าอาจได้เปรียบเล็กๆ ที่ผมได้ศึกษาข้อมูลของนักเตะไทยจากพวกเขา อย่างไรก็ตามโดยรวม ทีมชาติไทย ก็ยังแข็งแกร่ง แต่เรายืนยันว่า เราไม่กลัว และอะไรก็เกิดขึ้นได้
ส่วนกองกลางจาก “ยะโฮร์ ดารุล ทักซิม” ดีกรีรางวัลผู้เล่นอาเซียนยอดเยี่ยมของลีกมาเลเซีย ประจำปี 2018 อย่าง “ฮาริส ฮารูน” ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า
พวกเราอยู่ในช่วงมีความมั่นใจ และคิดว่าตอนนี้ทีมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว กับการที่จะเจอกับทีมชาติไทย เราจะทำผลงานให้ดีที่สุดในการเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน
ทีมชาติไทยชุดก่อนหน้านี้ (แชมป์อาเซียนปี 2016) มีซูเปอร์สตาร์อย่าง ธีรศิลป์ แดงดา , ธีราทร บุญมาทัน และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซึ่งเป็นทีมที่แข็งแกร่งมาก อย่างไรก็ตามแม้จะไม่มีพวกเขาในทีมชุดที่จะเจอกับเรา แต่ ณ ตอนนี้พวกเขาก็เต็มไปด้วยผู้เล่นที่มีคุณภาพ ดังนั้นไม่ว่าจะเล่นกับทีมชาติไทยชุดไหนก็ยากเสมอ
ฟุตบอล AFF Suzuki Cup 2018 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม B นัดสุดท้าย ระหว่าง “ทีมชาติไทย” พบ “ทีมชาติสิงคโปร” จะแข่งขันในวันที่ 25 พ.ย. เวลา 19.00 น. ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ถ่ายทอดสดทาง Fox Sports Asia , 7HD (ไทย) , OktoSports (สิงคโปร)
Cr. ภาพ และ ข้อมูล : FAThailand.org