LINE : @ufadb88vvip
“ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช” ประธานสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ออกมาร่ายยาวถึงความเห็นส่วนตัว เกี่ยวกับการจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก แบบบับเบิ้ล ที่มีแนวโน้มความเป็นไปได้สูงที่จะต้องจัดการแข่งขันในรูปแบบดังกล่าว
ในขณะนี้ ยอดผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย ufa365 ยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่องในระดับ 18,000 ราย/วัน และล่าสุดทาง ศบค. ได้มีการประกาศขยายพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มเพิ่ม จาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ทำให้มีหลายทีมในไทยลีก เสนอแผนจัดการแข่งขันในฤดูกาล 2021/22 ในรูปแบบบับเบิ้ล เพื่อให้การแข่งขันสามารถดำเนินต่อไปได้
โดย “มาดามฮาย” ได้ออกความเห็นถึงเรื่องดังกล่าว ผ่านเฟสบุ๊คแฟนเพจส่วนตัวว่า
ความเห็นของฮาย ในการจัดการแข่งขันแบบบับเบิ้ลของฟุตบอลไทยลีก
บับเบิ้ล คืออะไร สำหรับคนที่ยังไม่ทราบนะคะ
คือการจัดการแข่งขัน ที่นำนักฟุตบอลและทีมงานทั้งหมด ไปพักอยู่ในสถานที่หนึ่ง ในช่วงเวลาตลอดการแข่งขันระยะเวลาหนึ่ง
และทุกคนเหล่านั้นจะต้องไม่เดินทางออกไปไหน นอกจากระหว่างที่พัก สนามแข่ง และสนามซ้อม
และไม่เจอคนภายนอกที่ไม่เข้าระบบบับเบิ้ล จนกว่าการแข่งขันที่กำหนดจะเสร็จสิ้น (แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับรายละเอียดแบบแผนของฝ่ายจัดด้วยค่ะ)อันดับแรกต้องมองปัญหาที่สำคัญก็คือ เรื่องวัคซีน เลยค่ะ
ก่อนจะไปตอบอย่างอื่นได้ฮายคิดว่า นักฟุตบอลและทีมงานของทุกสโมสร ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว มีจำนวนน้อยกว่า 50%
นี่ยังไม่ต้องพูดถึงประสิทธิภาพของวัคซีน
ว่า ลดการติดเชื้อ ลดการป่วยรุนแรง หรือลดอัตราการเสียชีวิตได้หรือไม่และไม่ต้องพูดถึงจำนวนของผู้ชม ที่ได้รับวัคซีนเลย
ดังนั้น การจะกลับมาจัดการแข่งขันแบบปกติ คงยากมาก และคงอีกนานมาก
นี่คือปัญหาระดับชาติ
ปัญหาของประเทศ ที่ผู้มีอำนาจควรต้องดำเนินการแก้ไขอย่างจริงจังและจริงใจสำหรับการจัดการแข่งขัน
ไม่ว่าแข่งแบบปิด หรือ แข่งแบบบับเบิ้ล
เรื่องสำคัญที่สุดคือ นักกีฬาและทีมงาน รวมถึงฝ่ายจัด เจ้าหน้าที่ ผู้ตัดสิน ก็ควรต้องได้รับวัคซีนก่อนค่ะ
และควรต้องมีการตรวจโควิด ก่อนการแข่งขันทุกครั้ง
เพื่อลดความเสี่ยงลงในระดับหนึ่ง ที่อย่างน้อยคนที่เกี่ยวข้องคงอุ่นใจได้บ้างฮายมองว่า ปัญหาของการจัดแบบบับเบิ้ลที่สำคัญที่สุด
กล่าวไปแล้วหนึ่ง คือ วัคซีน นี่สำคัญมากจริง ๆ
สองคือเรื่อง ค่าใช้จ่าย
โดยเฉพาะค่าที่พักที่น่าจะมหาศาล
เพราะการไปอยู่ในที่ที่หนึ่ง นาน ๆ
มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายหนักมาก
และอีกอย่างคือค่าใช้จ่ายในการตรวจโควิด โดยเฉพาะในประเทศไทย คือ ค่าตรวจแพงมาก ๆ
และเราไม่ได้หาชุดตรวจเอง ได้ง่ายขนาดนั้นด้วยค่ะ
รวมถึงค่าอาหารอีกด้วยค่ะ ที่อาจจะพอ ๆ กับค่าที่พักเลยหากจะจัดแบบบับเบิ้ลนี้
ต้องมีแผนการที่ชัดเจน
วัคซีนได้เมื่อไหร่
ใครรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ทั้งค่าที่พัก ค่าตรวจโควิด ค่าอาหาร
ต้องมีคำตอบในคำถามเหล่านี้
เพื่อให้ทุกสโมสรได้วางแผนชีวิตตนเองได้แต่ถ้าบริหารจัดการแบบบับเบิ้ลไม่ได้
จะจัดเป็นการแข่งแบบปิด (ที่ต้องเดินทางเหย้าเยือนปกติ แต่ไม่อนุญาตให้มีผู้ชม)
เรื่องนี้ผู้จัดการแข่งขัน ก็ต้องบริหารจัดการ เรื่องการเดินทาง เข้าออก พื้นที่สีแดง เพราะแต่ละจังหวัดมีมาตรการที่ต่างกัน
อย่างไรก็ตาม ก็ควรต้องมีวัคซีนเป็นพื้นฐานอยู่ดี
รวมถึงการตรวจโควิดที่ต้องเข้มงวดกว่าเดิมอีกด้วย สำหรับการแข่งขันลักษณะนี้สรุปได้ว่า ถ้าไม่มีวัคซีน
ยังไงแต่ละสโมสรก็ต้องรับความเสี่ยงเต็ม ๆ
เพราะถ้ามีเหตุการณ์ต้องหยุดแข่งไปเลย
หรือถ้ามีใครในทีมติดโควิด
แล้วการดูแลรักษาพยาบาล กรณีป่วยหนัก ที่ไม่ได้เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน
การเยียวยาต่าง ๆ
สุดท้ายจะใครจะดูแลเราบ้าง หรือเราต้องดูแลตัวเอง
นี่คือคำถามที่ต้องได้รับคำตอบค่ะ
แม้แต่จะบอกว่า ต้องรับผิดชอบเอง แล้วเราจะซื้อหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพในประเทศ คือหาได้จากไหนตอนนี้แต่ถ้าไม่จัดแข่งเลย ถ้าจะต้องเลื่อนไปเรื่อย ๆ
เงินค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เงินสปอนเซอร์ ก็จะถูกเลื่อนไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน
ดังนั้น ภาระปัญหาทั้งหมดจะตกอยู่ที่สโมสร
ที่ต้องแบกรับภาระเงินเดือนของทุกคน
และจะตกอยู่ที่นักฟุตบอลและทีมงาน ที่ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตัวเองและครอบครัว ตามไปอีกทอดเราอาจจะเห็นหลาย ๆ สโมสรค่อย ๆ ถอดใจไป
หรือล้มหายตายจากไป
คงจะมีแค่สโมสรที่พร้อมขาดทุนเท่านั้น ที่จะอยู่รอดมันไม่ใช่แค่วงการฟุตบอล
แต่มันกระทบไปทั่วทุกวงการลำพังแค่อยากจะทำมาหากินด้วยตัวเอง
มันก็ยากมาก ๆ แล้ว
ทำไมคุณภาพชีวิตของคนไทย
รวมถึงคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย
มันถึงเป็นได้ขนาดนี้
และคุณค่าของชีวิตของคนมันขนาดไหนเป็นคำถามที่ถามไปก็คงไม่ได้คำตอบ
เพราะผู้มีอำนาจอาจจะไม่รู้
เพราะไม่เคยเอาใจมามอง เอาใจมาใส่
หรืออาจจะรู้ดี แต่แกล้งไม่รู้อยู่หรือเปล่าถ้ามีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหา
ถึงจะแก้ยากหรือง่าย หรือติดที่ตรงไหน
เชื่อว่าคนจะดูออก และจะเห็นใจ เข้าใจมากขึ้นกว่านี้ได้ส่วนใครที่เป็นห่วงสโมสรเชียงรายยูไนเต็ดของเรา
ฮายขอบอกว่า สโมสรเราตายยากค่ะ
ความอึด ถึก ทน มันอยู่ใน DNA ไปแล้ว
พึ่งใครไม่ได้ พึ่งตัวเองมาก็นักต่อนักแล้วแต่ก็อยากจะทิ้งท้ายบอกผู้มีอำนาจ
ว่าเราทุกคนควรพึ่งคุณได้นะคะ
มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่เราควรต้องได้รับ
และในฐานะความเป็นมนุษย์
เชื่อว่า มันดีกว่านี้ได้จริง ๆ ค่ะ
Cr. ภาพ : CRUTD
