“ทัพกูปรี” ทีมชาติกัมพูชา เปิดเกมสู้ได้แบบสนุก ก่อนจะพ่ายให้กับ “ทีมชาติบาห์เรน” ไปด้วยสกอร์ 0-1 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย และฟุตบอล AFC Asian Cup 2023 รอบคัดเลือก รอบที่ 2 กลุ่ม C ที่สนามโอลฃิมปิก สเตเดี้ยม กรุงพนมเปญ
โดยในเกมนี้ ทีมชาติกัมพูชา ของ “เฟลิกซ์ ดัลมาส” เปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น 11 คนแรก จากเกมเสมอ “ทีมชาติฮ่องกง” 1-1 เพียงคนเดียวเท่านั้น ได้แก่ “เซียง จันเทียะ” ผู้เล่นดาวรุ่งวัย 17 ปี ลงมาแทน “ฮอย พาลลิน” ที่มีรายชื่อเป็นตัวสำรอง
เริ่มเกมมาได้ไม่นาน ในนาทีที่ 6 ทีมชาติบาห์เรนได้โอกาสโหม่งจาก “จาซิม อาเหม็ด” แต่บอลไปเข้ามือของ “แก้ว สกเสลา” ผู้รักษาประตูของกัมพูชา
มาถึงในนาทีที่ 16 ทีมชาติกัมพูชาเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ “ชเฮง เมง” เปิดบอลจากกราบซ้ายให้กับ “เขียว สกเพ็ง” แต่บอลไม่โดน ผ่านหน้ากรอบประตูออกไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นไม่นาน ในนาทีที่ 19 ทีมชาติบาห์เรนได้ลูกเตะมุม จาก “โคมาอิล ฮาซัน” แต่ “แก้ว สกเสลา” ผู้รักษาประตูของกัมพูชายังเทคตัวชกทิ้งออกไปได้
และจากจังหวะต่อเนื่อง ในนาทีที่ 20 “วาลีด อัลฮายาม” กองหลังของบาห์เรน ได้จังหวะลักไก่ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปหล่นบนคาน ทำเอาแฟนบอลเจ้าบ้านเกือบ 60,000 คน หวาดเสียวไปตามๆ กัน
หลังจากนั้นทีมชาติบาห์เรนยังคงทำเกมบุกเข้าใส่อยู่เรื่อยๆ แต่ก็ถูกเกมเพรสซิ่งเร็วของกัมพูชาเล่นงานอยู่เป็นพักๆ เช่นกัน
แต่ในนาทีที่ 27 ทีมชาติบาห์เรนเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากการยิงเรียดพื้นของ “ซามี โมฮาเหม็ด” แต่บอลไปชนเสาหลุดออกหลังไป
หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว ในนาทีที่ 30 ทีมชาติบาห์เรนมาได้โอกาสยิงไกลจาก “จาซิม อาเหม็ด” แต่บอลเหินข้ามคาน
ทีมชาติกัมพูชาเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ในนาทีที่ 34 จากจังหวะที่ “เขียว สกเพ็ง” ได้โอกาสสับไกยิงในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งไปที่เสาแรก แต่บอลไปเข้ามือ “ซาเยด อับบาส” ผู้รักษาประตูของบาห์เรน
ในนาทีที่ 39 ทีมชาติบาห์เรนมาได้จังหวะหวาดเสียว จากการชาร์จจ่อๆ ของ “ซามี โมฮัมเหม็ด” ก่อนจะถูกกองหลังกัมพูชาสกัดออกมาและไปเข้ามือ “แก้ว สกเสลา” ผู้รักษาประตูของกัมพูชาอีกครั้ง
หลังจากนั้นในนาทีที่ 42 ทีมชาติบาห์เรนมาได้ลุ้นในจังหวะที่ “ซาเยด ดิยา ซาอีด” เปิดบอลจากกราบขวาให้กับ “ซามี โมฮัมเหม็ด” ได้โขกบอลลงพื้นแต่บอลกระดอนเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ทีมชาติบาห์เรนมาได้ลูกเตะมุม 2 ครั้งติดๆ กัน แต่ก็ยังทำประตูไม่ได้ จบเกมครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0
มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 57 ทีมชาติบาห์เรนมาได้จังหวะลุ้นทำประตูอีกครั้งจาก “ซามี โมฮัมเหม็ด” แต่บอลไปตรงตัว “แก้ว สกเสลา” ผู้รักษาประตูกัมพูชา
ทีมชาติบาห์เรนยังคงเปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง แต่เกมรับของทีมชาติกัมพูชายังคงประสานงานกันได้ดี
ในนาทีที่ 70 ทีมชาติบาห์เรนเกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จาก “โคมาอิล ฮาซาน” ได้จังหวะยิงจ่อๆ เข้าไปที่เสาสอง แต่ “แก้ว สกเสลา” ผู้รักษาประตูของกัมพูชายังเซฟเอาไว้ได้
ทีมชาติบาห์เรนยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 78 จากจังหวะลูกเตะมุม และเป็น “โคมาอิล ฮาซาน” ที่ตั้งป้อมยิงแหวกแนวรับของเจ้าบ้านที่ยืนคุมอยู่เข้าไป พาทีมชาติบาห์เรนขึ้นนำ 1-0
หลังจากโดนทำประตูขึ้นนำ ทีมชาติกัมพูชาก็ทำเกมบุกเข้าใส่อย่างดุเดือด ในนาทีที่ 82 “อร จันปอลิน” ได้โอกาสยิงจากทางซ้าย แต่บอลไปเข้ามือ “ซาเยด โมฮัมเหม็ด” ผู้รักษาประตูของบาห์เรนแบบต้องออกแรงเซฟ
เจ้าบ้าน ทีมชาติกัมพูชามาได้ลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 87 จากจังหวะที่ “ยู มุสลิม” ตัวสำรองตัดสินใจยิงแบบวอลเลย์จากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปโดนหน้าต่างเสาแรกอย่างน่าเสียดาย
ทีมชาติกัมพูชายังคงได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง ในนาทีที่ 89 จากจังหวะที่ “ชเฮง เมง” ไหลบอลมาจากฝั่งซ้ายให้กับ “ฮอย พาลลิน” ที่รออยู่ในกรอบเขตโทษ ก่อนตัดสินใจยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
หลังจากนั้นไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ จบเกมเป็นทางด้านของทีมชาติบาห์เรน เป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะไปได้ 1-0 เก็บ 3 คะแนนแรกได้สำเร็จ
หลังจบเกมนี้ ทีมชาติบาห์เรน มีเพิ่มเป็น 4 คะแนน จาก 2 นัด ส่วนทีมชาติกัมพูชา มี 1 คะแนน จาก 2 นัด อยู่อันดับที่ 4 ของกลุ่ม
https://twitter.com/theafcdotcom/status/1171414250558038016
Cr. ภาพ : The-AFC.com