“สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี แม้จะตกเป็นฝ่ายตามหลังไปก่อน แต่กลับโชว์ทีเด็ดในช่วงท้ายเกม เอาชนะ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ในศึกฟุตบอล LEO Pre-Season Cup 2020 รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม
โดยในเกมนี้ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ยังคงส่งผู้เล่นชุดเต็มลงสนาม นำมาโดยกัปตันทีมอย่าง “สารัช อยู่เย็น” ตามด้วยผู้รักษาประตูอย่าง “ดัง วาน ลัม” และกองหน้าอย่าง “แดร์เลย์” ที่ทำไปแล้ว 2 ประตู
ส่วนการท่าเรือ เอฟซี ที่เพิ่งจะเสร็จการแข่งขันในศึกฟุตบอลออมสิน ไทยแลนด์ แชมป์เปี้ยนส์คัพ 2020 มาเพียงแค่ 2 วัน ทำการโรเตชั่นผู้เล่น แต่ยังคงนำมาโดยกัปตันทีมอย่าง “ดาบิด โรเชล่า” และเปลี่ยนผู้รักษาประตูมาใช้บริการของ “รัตนัย ส่องแสงจันทร์” พร้อมด้วยส่งกองหน้าอย่าง “เจนรบ สำเภาดี” และพัก “เฮเบอร์ตี้ เฟร์นันเดส” ไม่มีชื่อในเกมนี้
เริ่มเกมมาเพียงแค่นาทีที่ 19 เป็นทางด้านของกิเลนผยองที่ได้เฮก่อน จากจังหวะที่ “เจสซี่ เคอร์รันส์” พาบอลมาจากทางฝั่งขวา ก่อนเปิดให้กับ “แดร์เลย์” ที่ยืนรอในกรอบ 6 หลา เทคตัวโหม่งผ่านมือ “รัตนัย ส่องแสงจันทร์” ผู้รักษาประตูของการท่าเรือ เอฟซี เข้าไป พาเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อน 1-0
ในนาทีที่ 44 การท่าเรือ เอฟซี ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุม และเป็น “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” ที่ได้เปิดเข้าไป แต่แนวรับของเอสซีจี เมืองทองฯ ยังโหม่งทิ้งออกมาได้
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ การท่าเรือ เอฟซี มาได้ลุ้นจากลูกเตะมุมอีกครั้ง แต่ในจังหวะสุดท้าย “บดินทร์ ผาลา” ของการท่าเรือ ก็ทำพลาดออกหลังไป ก่อนจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
มาถึงในช่วงครึ่งเวลาหลัง ในนาทีที่ 49 “วิลเลี่ยน พ็อพพ์” ได้โอกาสลากบอลเข้าไปในกรอบเขตโษ ก่อนตัดสินใจยิง แต่ “รัตนัย ส่องแสงจันทร์” ผู้รักษาประตูของการท่าเรือ ยังเซฟเอาไว้ได้
ถัดมาในนาทีที่ 51 การท่าเรือ เอฟซี มาได้ลุ้นในจังหวะที่ “บดินทร์ ผาลา” เปิดบอลมาให้กับ “เซร์คิโอ ซัวเรซ” ในกรอบเขตโทษ ได้โอกาสง้างเท้ายิงแต่ไปติดแนวรับของเมืองทองออกหลังไป
ในนาทีที่ 56 การท่าเรือเกือบได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” จ่ายบอลคืนหลังมาให้กับ “โก ซุล-กิ” ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลหลุดเสาสองออกไป
นาทีที่ 58 การท่าเรือ เอฟซี มาได้ลูกฟรีคิก และเป็น “ปกรณ์ เปรมภักดิ์” ที่ได้เปิดแต่บอลเหินข้ามคานออกไป
หลังจากนั้น การท่าเรือ เอฟซี ได้โอกาสบุกใกล้เคียงที่จะทำประตูได้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะจบสกอร์ได้
ในนาทีที่ 76 เอสซีจี เมืองทองฯ เกือบได้ประตุทิ้งห่าง จากจังหวะที่ “เจสซี่ เคอร์รันส์” เปิดบอลให้กับ “วีรเทพ ป้อมพันธุ์” ได้โหม่งจ่อๆ แต่บอลหลุดกรอบออไป พลาดไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมาในนาทีที่ 78 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้บุกอีกครั้ง และเป็น “วีรเทพ ป้อมพันธุ์” ผู้เล่นดาวรุ่งได้โอกาสครอสบอลให้กับ “เจสซี่ เคอร์รันส์” ได้ยิงจากนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลไปเข้าข้างตาข่ายออกหลังไป
และในนาทีที่ 82 สาวกสิงห์เจ้าท่าก็มาได้เฮกันสนั่น จากจังหวะที่ “อดิศักดิ์ ไกรษร” พาบอลจนสุดเส้นหลัง ก่อนจ่ายให้กับ “โก ซุล-กิ” ยิงยัดเสาสองเข้าไป พาการท่าเรือ เอฟซี ไล่ตีเสมอได้สำเร็จเป็น 1-1
นาทีที่ 89 เอสซีจี เมืองทองฯ มาได้ลูกฟรีคิก และเป็น “สารัช อยู่เย็น” ที่ได้เปิด แต่ไปถูกแนวรับของการท่าเรือโหม่งสกัดทิ้งออกมาได้
เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เกมทำท่าว่าจะจบลงที่ผลเสมอ แต่ในนาทีที่ 90+1 จากจังหวะที่ “ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา” ปาดบอลให้กับ “อดิศักดิ์ ไกรษร” ก่อนจัดการยิงเข้าไปไม่เหลือ ส่งให้การท่าเรือ เอฟซี พลิกขึ้นมานำ 2-1
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกมเป็นทางด้านของการท่าเรือ เอฟซี ที่เป็นฝ่ายพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ 2-1 คว้าแชมป์ไปครองในปีนี้
Cr. ภาพ : : LEO Thailand