“พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยืนยันจะไม่ทอดทิ้งทีมในศึกฟุตบอลออมสิน เนชั่นแนลลีก (ไทยลีก 3) และจะพยายามให้ถึงที่สุดเพื่อให้กลับมาสามารถดำเนินการแข่งขันได้
โดย “บิ๊กอ็อด” ได้กล่าวว่า
ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่ผ่านมา ผมเองได้เห็นการพัฒนาของลีกรากหญ้าที่ต่อเนื่องมีมาตรฐานที่สูงขึ้น และเห็นถึงความตั้งใจจริงของสโมสรในการเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมกันพัฒนาวงการฟุตบอลไทย
ผมได้ติดตามผลการดำเนินงาน ตามนโยบายที่ได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด ทำให้ผมรับรู้ถึงสถานการณ์และความเดือดร้อนของสโมสรในไทยลีก 3 เป็นอย่างดี
ภารกิจที่สำคัญของสมาคมฯ ไม่ใช่เพียงการพัฒนาทีมชาติไทยให้ก้าวไปประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติตามเป้าหมาย เพื่อสร้างความสุขของคนในชาติผ่านกีฬาฟุตบอล ทว่ายังมีฟุตบอลลีกในทุกระดับที่สมาคมต้องดำเนินการให้ประสบความสำเร็จควบคู่กันไป เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลให้ครบทุกมิติ
จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทุกๆ ท่านทราบดีว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ทั้งในส่วนของการจะกลับมาทำการแข่งขันภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดของ ศบค. ซึ่งเราต่างรู้ดีว่าต้องเป็นไปตามมาตรการเพื่อการป้องกันพี่น้องประชาชนไม่ให้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 รอบสอง รวมถึงการสูญเสียรายได้จากภาคธุรกิจ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อเนื่องไปยังสโมสรสมาชิก
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีความจำเป็นต้องปรับตัวให้สามารถดำเนินงานภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกติ เพื่อไม่ให้การพัฒนาฟุตบอลของชาติขาดความต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของวิธีการและการบริหารงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และผมเองก็อยากสื่อสารไปยังสโมสรอีกครั้ง ว่าภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกตินี้ ผมอยากให้สโมสรซึ่งเคยผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากด้วยกันในปีแรก ที่ผมเข้ามาบริหารงานในฐานะนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แม้ครั้งนี้จะหนักหนากว่า แต่ผมก็เชื่อว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยความร่วมแรงร่วมใจ ความเข้าอกเข้าใจเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
ผมและทีมงาน ได้มีการประสานงานภาคส่วนต่าง ๆ ที่จะเข้ามาช่วยกันประคับประคองไทยลีก 3 ให้สามารถจัดการแข่งขันให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานเอกชนที่เห็นความสำคัญและเข้าใจถึงความจำเป็นเร่งด่วน เพราะเข้าใจดีว่าไทยลีก 3 เป็นอีกฟันเฟืองที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยที่กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค เป็นส่วนสำคัญในการสร้างกระแสฟุตบอลให้เกิดขึ้น สร้างความสามัคคีให้กับคนในจังหวัด สร้างรายได้ให้กับผู้เกี่ยวข้อง และอีกหลาย ๆ เหตุผลที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าไทยลีก 3 คืออวัยวะสำคัญของคนฟุตบอล
หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เราเคยตกลงร่วมกัน อาจจะจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อให้วงการฟุตบอลเดินหน้าต่อไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเงินสนับสนุน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน ระยะเวลาการแข่งขัน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผมก็อยากให้สโมสรเข้าใจและปรับตัวไปด้วยกัน
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เพื่อยืนยันว่า “สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะไม่ทิ้งไทยลีก 3” และจะพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อให้การแข่งขันสามารถดำเนินการได้ และเชื่อว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย รวมถึงภาคเอกชน จะเห็นถึงความสำคัญของฟุตบอลไทยลีก 3 และยื่นมือเข้ามาช่วยให้พวกเราผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปในประเด็นสำคัญ ๆ ที่ชัดเจน จะมีการเชิญประชุมเพื่อชี้แจงและหารือโดยเร็วที่สุดครับ
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง
นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
Cr. ภาพ : FAthailand.org