“นวลพรรณ ล่ำซำ” ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ขอยื่นอุทธรณ์ต่อสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ หลังไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาวินัยมารยาท ที่สั่งปรับการท่าเรือ เอฟซี แพ้ 0-2 ในฐานะเจ้าบ้าน ในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก นัดที่พบกับ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา
โดยในเกมดังกล่าว เกิดเหตุการณ์หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิดก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มขึ้นประมาณ 30 นาที จนไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าไปยังระบบไฟส่องสว่าง และระบบอื่นๆ ภายในสนามได้ ทำให้ผู้ควบคุมการแข่งขันสั่งยุติการแข่งขันทันที หลังเวลาผ่านไป 1 ชม. จากเวลาที่เริ่มแข่งขัน
ซึ่งทางด้านของ “มาดามแป้ง” ได้กล่าวว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการแข่งขัน เป็นสิ่งที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีการระเบิดถึง 3-4 ครั้ง และเกิดเพลิงไหม้ขึ้นโดยในขณะนั้นยังไม่สามารถจะตรวจสอบได้ว่าเกิดจากสาเหตุใด
อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ และเจ้าหน้าที่เก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด EOD ได้ขอไม่ให้ใช้เครื่อง Generator และเครื่องดับเพลิงเนื่องจากยังมีความเสี่ยง โดยให้เหตุผลว่าเป็นไปเพื่อความปลอดภัยของแฟนบอลจำนวนกว่า 1,500 คน รวมถึงนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 สโมสรเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ผู้ควบคุมการแข่งขันได้เรียกผู้แทนทั้ง 2 ทีม,ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในห้อง ซึ่งตำรวจทั้ง สน.ท่าเรือ และ หน่วย EOD ก็ได้แนะนำว่าไม่ควรให้มีการแข่งขัน เนื่องจากอาจจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ชมหรือแฟนบอล จึงได้มีการเห็นพ้องต้องกันทุกฝ่ายว่าควรเลื่อนการแข่งขันออกไป และทางตำรวจเองก็มีหนังสือออกมาแล้วว่าได้สั่งไม่ให้แข่งขันเช่นกัน
ดังนั้นหากจะตัดสินว่าสโมสรการท่าเรือ เอฟซี มีความบกพร่องและจะต้องถูกปรับแพ้ เนื่องจากความไม่พร้อมของเครื่องปั่นไฟหรือเครื่อง Generator ซึ่งไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากในขณะนั้น สโมสรยึดเอาความเห็นของตำรวจที่คำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ดังนั้นคำตัดสินในวันนี้จึงน่าผิดหวังที่ไม่ให้ความเป็นธรรมกับสโมสร และไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและคำแถลงชี้แจงของทุกฝ่าย
Cr. ภาพ : Port FC